ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
เส้นทางจอมปราชญ์ (๑๐)
៥២៩
ยืนยาวขึ้นไปอีก ถ้าหากถึงคราวที่จะสิ้นอายุ จะห้ามมัจจุราช
อย่างไรก็คงไม่ฟัง เปรียบเหมือนต้นไม้ที่ตายแล้ว ไส้ข้างในเป็น
โพรงแห้งผาก แม้จะมีผู้ที่ต้องการจะให้ต้นไม้นั้นฟื้นคืนมา
เอาน้ำมารดเป็นร้อยหม้อพันหม้อ ก็ไม่สามารถผลิดอกออกผล
ได้ฉันใด
บุคคลถึงคราวสิ้นอายุขัย ถึงจะมียาวิเศษ มีแพทย์ตั้งใจ
เยียวยารักษาเป็นอย่างดี ก็มิอาจมีอายุขัยยืนยาวสืบต่อไปได้
พระปริตรก็เหมือนกัน คนที่สิ้นอายุแล้วแม้จะสวดสรรเสริญ
พระปริตรมากมายสักปานใด ก็ไม่สามารถป้องกันชีวิตของคนที
มีอายุสั้น ให้มีชีวิตยืนยาวสืบต่อไป และพระปริตรเหล่านี้มีไว้
ป้องกันรักษาตอนที่ยังไม่ถึงแก่กรรม และบุคคลที่ยังไม่สิ้นอายุ
เปรียบเหมือนชาวนา เมื่อต้นข้าวแก่จนสุกแล้ว ถึงจะ
วิดนํ้าในนาขังเอามากมาย ต้นข้าวก็ไม่เจริญเติบโตต่อไปได้อีก
คงมีแต่จะร่วงโรยไป แต่ข้าวที่มีต้นอ่อนนั้น พอให้น้ำเลี้ยง ก็
เจริญเติบโต สีสันเขียวชอุ่มงดงาม ข้อนี้เป็นฉันใด คนที่มีอายุสั้น
แล้วจะให้กินยา และสวดพระปริตรเท่าใดก็ไม่สามารถจะมีอายุ
ยสืบต่อไปได้ฉันนั้น แต่ผู้ที่มีอายุและวัยที่สามารถเจริญเติบโต
ต่อไปได้อีกนั้น หากเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าได้สวดพระปริตรหรือกิน
ยารักษาเพียงเล็กน้อยก็จะหายป่วย และดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้”