ข้อความต้นฉบับในหน้า
Bsumaประชาช
เส้นทาง จอมปราชญ์ (๖)
៤៩៤
เข้าอายตนนิพพานไปแล้ว จะให้อาตมาชี้ว่าอยู่ที่นั่นที่นี่ จนใจที่
จะชี้ให้มหาบพิตรจริงๆ” ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยอุปมาให้หายสงสัยเถิด
พระนาคเสนจึงถามต่อไปว่า “พระราชสมภารเจ้า เปลวอัคคีที่
รุ่งโรจน์โชตนาการ เมื่อเปลวเพลิงดับไป มหาบพิตรสามารถชี้
ได้หรือไม่ว่าเปลวไฟนั้นอยู่ที่ไหน” “ไม่อาจชี้ได้หรอกพระคุณเจ้า
เพราะมันดับไปแล้ว” “เหมือนกันน่ะแหละ มหาบพิตร เมื่อ
พระพุทธองค์เสด็จสู่อายตนนิพพาน จะชี้ให้เห็นด้วยตามนุษย์
อาตมาก็จนใจไม่รู้จะชี้ได้อย่างไร เหมือนเปลวไฟที่ดับไปแล้ว
อาตมาก็ไม่รู้ว่าจะชี้ให้เห็นได้อย่างไร”
พระยามิลินท์ได้ฟังอย่างนั้น ยังไม่หมดข้อสงสัย จึงถามว่า
“สมเด็จพระพุทธองค์ยังทรงมีพระชนม์อยู่ สาธุชนทั้งหลาย
จะบูชาก็ควร แต่เดี๋ยวนี้พระองค์เข้าพระนิพพานไปแล้ว จะไหว้
จะบูชา สมเด็จพระบรมศาสดาก็ไม่ทรงยินดี การบูชาอย่างนี้
จะมีผลอะไรเล่าพระคุณเจ้า” พระนาคเสนจึงวิสัชนาว่า “อย่า
ว่าแต่พระองค์ปรินิพพานไปแล้วจะไม่ยินดีสักการบูชาเลย
แม้พระองค์ยังพระชนม์ชีพอยู่ก็ไม่ทรงยินดีหรือติดลาภสักการะ
พระสารีบุตรเถระกล่าวไว้ว่า พระชินสีห์จะยินดีในสักการบูชา
ก็หาไม่ แต่ก็ควรที่เทวดา และมนุษย์จะบูชา เพราะเมื่อบูชา
พระพุทธเจ้าแล้ว มีผลานิสงส์จะนับจะประมาณมิได้ถวายพระพร”
พระยามิลินท์ทรงก้านขึ้นว่า “พระคุณเจ้า จะมาอ้างคำ