ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเรll
อย่าโกรธกันเลย
๒๑๕
ไม่เป็นที่น่าคบหาสมาคมของเหล่าบัณฑิตนักปราชญ์ ผู้ที่ปล่อย
ให้ความโกรธครอบงำาจิตใจอยู่เป็นประจำย่อมได้ชื่อว่าเบียดเบียน
ตนเองและผู้อื่น เหมือนไฟที่ไหม้เรือนหลังแรกแล้วลุกลามไปไหม้
หลังที่สอง หลังที่สาม ลุกโหมเป็นเปลวไฟใหญ่ ไหม้ต่อๆ กันไป
ไม่สิ้นสุด
ความโกรธน่าแต่สิ่งที่เป็นโทษมาสู่ตนเองและคนอื่น
ทำให้เป็นทุกข์ ยังเผาผลาญใจให้มอดไหม้ไปจากคุณธรรมความ
ดี พระพุทธองค์จึงสอนให้ละความโกรธ ให้มีความอดทนอดกลั้น
เบื้องต้นอาจรู้สึกเป็นความขมขื่น ทรมานจิตใจ แต่ผลที่ได้ใน
ภายหลัง คือความสุขสดชื่น โล่ง โปร่ง เบา สบายใจ เหมือน
ท้องฟ้าหลังจากฝนตกใหม่ๆ ที่มีแต่ความสดใส ทำความ
สบายใจให้กับทุกผู้คน
*ในคราวหนึ่งท่านพระอนุรุทธะผู้เป็นเลิศในด้านทิพย
จักษุ พาภิกษุ ๕๐๐ รูป เดินทางไปเมืองกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นบ้าน
เกิดของท่านเอง หมู่ญาติของท่านต่างพากันมาถวายภัตตาหาร
คอยอุปัฏฐากรับใช้เป็นอย่างดี มีเพียงน้องสาวของท่านชื่อ
โรหิณีที่ไม่มา พระเถระจึงถามว่า “โรหิณีอยู่ไหน ทําไมไม่มา
ร่วมทำบุญกับหมู่ญาติเล่า”
*มก. เล่ม ๔๒ หน้า ๔๒๖