ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อนันตราคาถรรมบทแปล - หน้าที่ 83
กลับไป ภายหลังมีครรภ์อีก หนึ่งอย่างนั้นอีก กิดคลอดลูกขึ้นกลาง
ทางอีก เลยให้ชื่อว่า ปันตกะเหมือนอย่างก่อน เพราะเกิดในทางเปลี่ยว
เหมือนกัน ต่างแต่ว่าเปลี่ยนคนที่ชื่อปันตกะ คน้องชื่ออูปปินตกะ
เมือเสร็จเรือคลอดลูกแล้ว เหมาแก่เวลา สามีพิพักษ์กลับไป นาง
เศรษฐีอิทธิ์ได้รับความทุกข์ยาก ไม่สุขสบายเหมือนแต่ก่อน คิดกลับ
บ้านเดิมอยู่เสมอ แต่สามีไม่ยอมกลับ เพราะกลัวแต่ชาญเศรษฐี
เมือคลายชาย 2 คนบ่นพ่อเจริญวัยขึ้น ได้ฟังเสียงเด็ก ๆ เพื่อบ้านเรียก
คนนันว่าๆ คนนันว่า ๆ แต่ของตนไม่มีจะเรียกกับเขาเลย ก็_nกเปลก
จิ่งไปถามว่า แต่จ่า ! ปู่ถามยายอะไรของฉันไม่มีหรือ ? แม่ก็มิ
อยู่ที่เมืองราชคฤห์นนั่นแหละ เจ้เด็กทั้ง 2 นั้น ก็ถึงแต่รับเค้ากลับไป เพื่อ
จะไปหาอดิอย่านั้น แต่พ่อของเด็กไม่ยอมไป ถูกธรำหน้าชีวิตพา
กันไปด้วยเห็นแก่กูล ครั้นถึงแล้ว ท่านเศรษฐีรืบอหลาน 2 คนเลี้ยวไว้
แต่ตัวลูสาว ท่านเศรษฐีไม่ยอมให้เข้า หน้า ส่งให้เงินทองให้แกเขา
พอเลี้ยงอาดมกา แล้วก็ถกญาติปล่อยไป ส่วนสามีของนางนั้น หาได้เข้า
ไปถึงบ้านเศรษฐีไม่ ด้วยอารามกลัวหลบ ๆ หลีก ๆ อยู่ตามชายฟือย
นั่นเอง เลยพูดถึง แม้นางนั้นถูกกัดตัดชดี เด็ก 2 คนน้อยก็กลัวจน
จนเต็มโต มาทีปนตกะได้ไปฟังเทศน์ที่วัดพระวรุณ ติดใจ จึงกล่าว
ว่าจบว่า ได้บรรพชาอุปสมบทแล้ว บรรลุพระอรหันต์แล้ว คิด
อนุเคราะห์น้องชาย จึงไปอนุญาตต่อเศรษฐีเป็นการ ขอบฝันตกะ
มาบวชเป็นสามเณร กันแล้วพระมหาในกะเณร สอนกาถานี้ให้ท่อง
อยู่ว่า: -