ประเพณีในกรุงสาวัตถี อันตรคาถาธรรมบทแปล ภาค 1-8  หน้า 239
หน้าที่ 239 / 278

สรุปเนื้อหา

ในครั้งพุทธกาล ประเพณีในกรุงสาวัตถีเห็นว่าผู้ที่ไม่เลี้ยงบิดาจะมีโทษหนัก ในที่ประชุมพราหมณ์แสดงความกลัวถึงความตายและมุ่งมั่นในการจัดการบิณฑบาตให้กับบิดา หัวข้อการสนทนาเกี่ยวข้องกับการทำดีและการช่วยเหลือบิดามารดา เช่นเดียวกับเรื่องราวที่เกี่ยวข้องในชาดกที่แสดงถึงความสำคัญของการประพฤติตนดี และการรักในครอบครัว

หัวข้อประเด็น

-ประเพณีการบิณฑบาต
-การเลี้ยงดูบิดา
-ความกลัวต่อความตาย
-การประพฤติดีในสังคม
-เรื่องราวชาดก

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อันดับธรรมบทแปล - หน้าที่ 236 ในครั้งพุทธกาล ประเพณีในกรุงสาวัตถีมีอยู่ว่า มุทธ์ที่จะสมบัติของบิณฑบาตแล้ว ไม่เลี้ยงท่าน โทษถึงประหาร จะนั่น เมื่อ พราหมณ์ผู้พูดขึ้นในกลางประชุมอย่างนั้น พวกบุตรตนลูกอาชญา ถึงตาย เขารู้สึกตัวกลัวตาย มาหมอปลนที่ทำของบิณฑบาตชีวิต พราหมณ์ใดอ่อนอ่อน ยอวยให้ บรรดาคนในประชุมนี้ลบ่าวว่่า ต่อไป ถ้าไม่บำรุงบิดาให้ดี จะต้องถูหา จำเดิมแต่นั้นมา พราหมณ์ จึงสนใจ อัญเชิญอีสติรับบิณฑบาตที่บ้านบุตรทั้ง ๔ คน เรียนไปบนรอบ ครวานนี้ มงมงคลในบ้าน พราหมณ์ใ้ให้ อัญเชิญสินดี พระศากดาไปพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ ๕๐๐ รูป ในเวลาสวย บุตร ของพราหมณ์นั่งปฏิบัติอุปบิณฑบาต ได้ดูจูให้พระองค์ทอดพระเนตร รูปร่างของพราหมณ์ เพื่อแสดงอาเกิดอัปปจาริยะบิตติมีทีบที่บนอันพิ พระองค์ทอดพระเนตรแล้ว ตรัสถามเขาว่า ท่านทำดีแล้ว การเลี้ยง มาตราบิิด อนท่านโบราณบันติดติประพฤติดีนมาแล้ว ตรัสสนทนาใปลก-ชาดกสนับสนุนว่า :- [ มฐดูโปสาทก ] ในครั้งโบราณ มีชาวโโลนึ่งอยู่ในป่า จำโลงเป็นช้างเผือก คุมโลงเกี่ยวหากิน ช้างพงมารคของจำโลงนั้น นัยน์ตาคมไป หากินไม่ได้ จำโลงกัดกินไม้ผลไม้ ใช้ให้ช้างอื่นนำนำไปให้ถึงที่อยู่ แต่ลูกกะขอ กินเสียดาบในกลางทาง ภายหลังจำโลงรู้ว่าช้างงูง โลง
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More