ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค 3 - อินทรคถรรรมทบแปล - หน้าที่ 105
ใหญ่อนุเนตรแตก กลายเป็นคนตามดอไป แต่ภายหลังได้เป็นอาจารย์
สอนศิลปวิทยาแก่หมู่จริยธรรม ฯ ละประมาณ ๕๐๐ อยู่ในกรุงไพศรี
พันธุ์กุมาร มีั้งลังมาก กระโดดได้สูงถึง ๘๐ ศอก อาจอาดับต่อ
ไม่ฟัง ๖๐ มัด ประมาณมัดละ ๖๐ ลำไม้ โดยการกระโดดฟันคราวเดียว
แต่เสียกลัอนลำกุมาร คือ ในลำไม้ มีซี่เหล็กลอคอยอยู่ข้างในด้วย
ไม่มีใครบอก เวลากระโดดฟันจึงดังกรั้งใหญ่ ความตั้งใจว่าถ้าร่มเหล็ก
อยู่ข้างใน จ ประกอบฟันไม่ให้มีเสียงดังรึกเครกเลย เมือกระทบเหตุเช่นนี้
เกิดขัดใจกันขึ้น จึงไปออยู่กับเพื่อน คือพระเจ้าเสนห์โกศล ครับ
ไปถึง พระเจ้าเสนห์โกศลก็ทรงตั้งไว้ในตำแหน่งเสนาบดี
วันหนึ่ง พระเจ้าเสนห์โกศล ทอดพระเนตรเห็นภูมิคุ้มกันเป็น
หมู่ ๆ ตั้งหลายพันรู ในเรื่องว่าไปรบเท่า แลอกรัณฑชาที่บ้านท่า
อนาถนิทตตรูบ้าง ฯ ผจญาณินตกะบ้าง นางวิสาขาบ้าง นาง
สุขวามาบ้าง ทั่วเธอได้ทรงทราบเหตุการณ์ดังนี้แล้ว จึงมีพระราช-
ประสงค์จะทรงบำเพ็ญพระกุศลเช่นนั้นบ้าง แล้วจึงเสด็จไปปราบบุตรเชิญ
เสด็จสมเด็จพระบรมศาสดา ทรงถวายทานสินสัปทดา แล้วลุเชิญเสด็จ
ไปปราบกุศัง ฯ สมเด็จพระบรมศาสดาไม่ทรงรับ มอบให้เป็นหน้าที่ของ
พระอนุกรเกระ กับภูมิสมัติประมาณ ๕๐๐ รู ไปปราบทุก ๆ วัน ต่อ
มาไม่มีวัน ทำเธอรงชักชวนไปเสีย ภูฏูหลายอีกกระดก ต่างรูป
ต่างก็เเลิกไม่ไป เหลือแต่พระอนุกรเกระองค์เดียวที่ยังคงไปลอลองศรทา
อยู่ ท้าวเธอทรงทราบว่าเป็นเช่นนั้น ก็ทรงพระพิไรรโณรรครูเป็นกำลัง
ตัดพ้อว่าจะแนกก็ไม่มีบอก ทำให้เตรียมข้าวของไว้งั๋ง จึงเสด็จ