ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๑ - อันตราธรรมแปล - หน้า 122
แก แล้วจึงเดินเข้าไปยืนอยู่หน้าบ้านของแกตายคู่นันแม้เห็น
แล้วแต่ไกล ก็ทำเป็นไม่เห็นเพื่อจะแกล้งลองให้สนิท อีกสักครู่
หนึ่ง ก็ทำเป็นเห็น ต่างก็ลุกลี้ลุกลน ๆ บ้าง ๆ เข้าไป ฝ่ายตนเอง
ทำเป็นว่าที่ตำพา เอามือป้องหน้าแทนขึ้นดูแล้วเรียกว่า กระผม
ตา-fางฟาเหลือเกินไม่ค่อยเหนอะอะไรเลย แล้วทำเป็นรู้ ร้องกล่าวว่า
โอดายจริง! พระมหากัสสะเจเจ้พี่เป็นเจ้าของเรานเอง เห็นจ
มาชำอย่าว่านแล้วกระมังรึยัง? ที่เรือนนี้อะไรยังไม่ทราบ แล้ว
ทำเป็นตะล่อดลับรับรอบไปด้วยแจงอาหารบินทบตามมาย เรียกว่า
ขอพระผู้เป็นเจ้าย่อรังเกียจเลย ของเหลาบาง ประณีตบาง ตามแต่
จะหาได้ นักากสงเคราะห์แก่กระผมผู้อากจบกะเกิด.
พระเกรเจ้าทำในว่าว่า ของที่ตายคู่นันให้แล้ว จะเป็นผักคง
ปลายข้าวหรือก็ตามที่เกิด เป็นหน้าที่ ๆ เราจะสงเคราะห์ดังทาง
อากรบินทบตามนั้น ได้เป็นอาหารบินทบาด ที่บริบูรณ์ด้วยแกง
และก็น은อิ่มมาก หมอหนวดลบไปทั่วทั้งเมืองราชฎิ ในกา
นั่น พระเกรเจ้ารำพึงว่า คน ๆ นี้ทำก็เป็นคนต่ำศักดิ์ แต่อาหาร
บินทบาด ดูลงศักดิ์กัน เทียบกับโอชาหารของท้าวจักกะ ผู้ที่มี
ฤทธิญาภพึงอย่างนี้ ๆ จะเป็นใครหนอแล ครั้นทราบว่าเป็นท้าว
ลักษะแน่ จิงกล่าวว่า คู่คนท้าวโกสินี่! ท่านมาแย่งสมบัติของคน
อยากจนทั้งหลาย ชื่อว่าทำกรรมหนักเสียแล้ว หน้าที่คนอยากคนใด
คนหนึ่ง เขาก็ทนต่านแก่เราในวันนี้แล้ว ก็จะได้รับสมบัติตาม
ส่วน มีตำแหน่งสนาบดีและเศรษฐีเป็นต้น ท้าวลักษะก็เรียวนว่า