ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค 3 - อันดับธรรมบทแปล - หน้าที่ 134
สมูล คณุั อุพุพลูที่
โคสิโก ปรินิพพุตโตร.
ถอมตนหาพร้อมทั้ง มูล
ผู้นั้น คือ โคสิโก นิพพานแล้ว
ตั้งแต่พระโคสิโกะเดร ปริ นิพพานแล้ว มาถึงผู้บาบีตั้งแต่เที่ยวย
แสวงหาดวงวิญญาณของท่านไป ถึงเทวดามาไปอย่างไรลิมได้
ประสบพบปะ แต่กระนั้น มาร์นี่ยึดเทียนอยู่ว่า
ท่านปริ นิพพานแล้ว ข้อนี้เป็นความจริง เพราะพระอริยเจ้าล่วงเลย
วิสัยของมารเสียแล้ว เรื่องคล้ายอย่างนี้ ได้มึนแล้ว อีกเรื่องหนึ่ง ในครั้ง
พุทธกาล คือองค์ศิษาผนมดี เรียนรู้นับตำหนายนายกะโลศิยะ เขา
เป็นนักคิดกะโลศิยะ กะโลศิยะของสัตว์โลกที่เข้าดีแล้ว ๆ
เขาๆว่า ศิษาผนี้ตายไปเกิดในนรก ศิษาผนี้ตายไปเกิดในสวรรค์
เขาๆได้จริงอย่างท่านนา แต่ก็รู้ได้ในใจ พวกกะโลศิยะของปฐพี
เท่านั้น มาดังกะโลศิยะ ของพระอริยเจ้า ดีแล้วคิดล่ะ ถ้า
หารู้ได้ว่า ศิษาผนี้เป็นอย่างไร หรือไปเกิด ใน ที่ไหน เพราะไม่
ล่วงรู้วิสัยความเป็นไปของพระอริยเจ้า
อันนี้ ความบริสุทธิ์ภายในเป็นของละเดียดยบมแท้ ยกที่จะล่วงรู้
ของกันและกันได้ ไม่ต้องกล่าวถึงความบริสุทธิ์ภายในก็ได้เพียงแต่ใจ ๆ
ก็ยังล่วงรู้ของกันและกันยากเสียแล้ว เพราะฉะนั้น จึงมีคำพูดกันอยู่ว่า
" หย่านำหน้ายังท่า พอหย่านำใจคน หยังไม่ได้" คือ
ว่าจะหย่าน้ำในมหาสมุทรดูรู้ว่าลึกตื้นลึกเพียงไร ก็พอหย่านดูรู้ได้
แต่จะหย่านำใจดูรู้ว่าเป็นอย่างไร นี่เป็นของแท้ สมดังคโลง
ที่ว่า :-