ข้อความต้นฉบับในหน้า
สรณะอันเกษม
១៨
บังหวนควัน เป็นเปลวเพลิงที่มีฤทธิ์ร้อนแรงมาก พระโมคคัล
ลานะไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใด เพราะท่านเป็นอัครสาวกผู้เลิศทาง
ด้านมีฤทธิ์มากจึงเข้ากสิณเตโชสมาบัติ ยังหวนควันพุ่งใส่
พญานาค เป็นไฟที่ร้อนแรงยิ่งกว่านั้นอีก ในที่สุด พญานาคสู้
ไม่ได้ ก็ยอมแพ้ แล้วขดตัวแผ่พังพาน บังแดดบังฝนให้พระเถระ
ได้นั่งสมาธิอยู่บนกองทรายตลอดทั้งคืน
ครั้นรุ่งเช้า อัคคิทัตก็สั่งให้ฤๅษีบริวารตามไปดูซิว่า
ป่านนี้นักบวชท่านนั้นคงละลายไปด้วยอานุภาพแห่งพญานาคแล้ว
เมื่อไปดู ปรากฏว่าเห็นพระโมคคัลลานะนั่งอยู่บนกองทราย
โดยมีพญานาคขดเป็นวงกลมแผ่พังพาน คอยปกป้องอันตรายให้
จึงเกิดความเลื่อมใส ในเวลานั้นเอง พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จมา
ในขณะที่ทิฏฐิมานะของฤๅษีทั้งหลายลดลงแล้ว เมื่อท่าน
ประทับในที่อันควร พระโมคคัลลานะเข้ามาถวายบังคม
พวกฤาษีเห็นดังนั้น ก็เข้ามาถวายบังคม เพราะคิดว่า พระผู้มีพระ
ภาคเจ้าจะต้องมีอานุภาพมากกว่าพระโมคคัลลานะ ซึ่งสามารถ
ปราบพญานาคได้เป็นแน่แท้
ในที่สุด เมื่อทิฏฐิมานะลดลงแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงแสดงธรรมให้อัคคิทัตและบริวารได้ทราบถึงสรณะที่แท้จริง
ว่าสรณะนั้นมีอยู่ภายในเท่านั้น คือพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และ
สังฆรัตนะ เป็นที่พึ่งอันเกษม เป็นที่พึ่งที่แท้จริง ที่จะช่วยให้พ้น