ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาช
ถึงพระรัตนตรัย อยู่ไกลก็เหมือนใกล้
๔๒๑
ชั้นดาวดึงส์ต่อ ในคราวที่พระกาฬุทายีเถระ เชิญเสด็จพระ
ผู้มีพระภาคเจ้ามาถึงกรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อจะทรงอนุเคราะห์เจ้า
ศากยะทั้งหลาย
สมัยนั้น พวกเจ้าศากยะมีมานะจัด ไม่รู้จักคุณของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นคนกระด้างเพราะชาติ ไม่เอื้อเฟื้อ
ไม่นอบน้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงทราบ
ความด่าริของเจ้าศากยะเหล่านั้น จึงได้เสด็จจงกรมในอากาศ
โปรยธุลีพระบาทให้ตกลงมา เหมือนเมฆยังฝนให้ตกลงแล้ว
เหมือนเปลวไฟลุกโพลงมีเถ้าธุลีตกลงมาฉะนั้น ทรงแสดง
พระรูปที่ไม่กระสับกระส่าย แล้วทรงหายไปอีก หรือปาฏิหาริย์
พระองค์เดียวให้เป็นหลายองค์ก็ได้ แล้วกลับเป็นพระองค์เดียวอีก
ทรงแสดงความมืดและแสงสว่าง ทรงทำพระปาฏิหาริย์มากมาย
ทรงปราบเหล่าพระญาติให้หมดมานะด้วยพุทธานุภาพ
ขณะนั้นเองมหาเมฆอันตั้งขึ้นในทวีปทั้ง ๔ ได้ยังฝน
โบกขรพรรษให้ตกลงแล้ว ได้ตรัสเทศนาเวสสันดรชาดก ว่าด้วย
การสร้างมหาทานบารมีครั้งยิ่งใหญ่ ที่พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์
ทรงกระทำ เหล่าศากยะทุกๆ พระองค์ได้ละมานะทิฏฐิอันเกิด
จากชาติตระกูลได้แล้ว จึงถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าเป็นสรณะ
ในกาลนั้นพระเจ้าสุทโธทนะได้ตรัสว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้
มีปัญญาเสมอด้วยแผ่นดิน มีจักษุโดยรอบ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๓