ข้อความต้นฉบับในหน้า
รู้แจ้งด้วย ธรรมกาย
៨៤
ของคนที่เกิดเป็นมนุษย์ ของคนที่เกิดในเทวโลก และของผู้ที่
ปรินิพพานแล้วมาอย่างละหนึ่งศีรษะ
วังคีสะร่ายมนตร์แล้ว
เคาะศีรษะอันแรก กราบทูลว่า “ท่านผู้เจริญ บุคคลนี้ไปบังเกิด
ในนรก” แล้วตรัสถามถึงศีรษะอื่นๆ ตามลำดับ วังคีสะก็ตอบว่า
“บุคคลนี้ไปเกิดเป็นมนุษย์ บุคคลนี้ไปเกิดในเทวโลก พระเจ้าข้า”
พระบรมศาสดาทรงประทานสาธุการแก่เขาทุกครั้งไป
ครั้นถึงศีรษะของผู้ที่ปรินิพพานไปแล้ว เขาไม่สามารถ
ตอบได้ เพราะไม่เห็นทั้งเบื้องต้นและเบื้องปลายของบุคคลนั้น
พระบรมศาสดาจึงตรัสถามว่า “วังคีสะ ท่านไม่เห็นหรือ” เขาทูลว่า
“ขอข้าพระองค์ได้พิจารณาดูอีกครั้งหนึ่ง” แล้วก็พลิกกะโหลก
ศีรษะกลับไปกลับมา ร่ายมนตร์อยู่ตั้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่เห็นที่ไป
เกิดของบุคคลผู้นี้ เมื่อพยายามอย่างเต็มที่แล้ว จึงยอมจํานน
แล้วกล่าวว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ไม่รู้ที่ไปของ
บุคคลนี้ ถ้าพระองค์ทรงทราบ ขอจงตรัสบอกเถิด” พระศาสดา
ตรัสว่า “วังคีสะ เรารู้จักที่ไปของผู้เป็นเจ้าของศีรษะนี้ แม้ยิ่ง
กว่านี้ก็รู้” แล้วตรัสพระภาษิตว่า
“ผู้ใดรู้การจุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย โดยประการ
ทั้งปวง เราเรียกผู้นั้น ผู้ไม่ต้องแล้วไปดีแล้ว รู้แล้วว่าเป็นพราหมณ์
ส่วนเทพ คนธรรพ์ และมนุษย์ ไม่ทราบคติของผู้สิ้นอาสวะแล้ว