ข้อความต้นฉบับในหน้า
ถึงพระรัตนตรัยอยู่ไกลก็เหมือนใกล้
๔๒๒
ที่หม่อมฉันถวายบังคมพระบาททั้งสองของพระองค์ คือในครั้ง
ที่พระองค์ประสูติ ได้เกิดแผ่นดินไหว หม่อมฉันก็ได้ถวายบังคม
และครั้งที่มีพระราชพิธีแรกนาขวัญ เงาไม้หว้าอันเป็นที่ประทับ
นั่งของพระองค์ไม่เอนเอียงไป หม่อมฉันก็ได้ถวายบังคมพระองค์”
ในครั้งนั้น พระโลมสกังคิยเถระมีบุญตาได้เห็นพุทธานุภาพนั้น
เกิดอัศจรรย์ใจ จึงได้บรรพชา เป็นคนบูชามารดา จึงได้อาศัย
อยู่ในกรุงกบิลพัสดุ์นั่นเอง
พอบวชได้ไม่นานจันทนเทพบุตรได้เข้ามาถามถึงนัยแห่งผู้
มีราตรีเดียวเจริญทั้งโดยย่อและพิสดาร ท่านถูกจันทนเทพบุตร
เข้ามาถามแล้วก็เข้าไปเฝ้าพระบรมศาสดาได้สดับภัทเทกรัตตสูตร
แล้ว เป็นผู้สลดใจ ปรารถนาจะไปอยู่ในป่า จึงบอกลามารดาว่า
จักอยู่ ในป่าแต่ผู้เดียว แต่ถูกมารดาห้ามปรามว่า พระลูกชาย
เป็นคน ละเอียดอ่อนจะอยู่ได้หรือ ท่านก็ตอบว่า “อาตมาจะทำ
กิเลสดุจหญ้าคาให้แหลกละเอียดด้วยใจ พอกพูนวิเวก ขอโยมแม่
อย่าได้เป็นห่วงเลย”
ท่านได้เข้าป่าไปหาความสงบ นึกถึงคำสอนของพระ
พิชิตมาร คือ ภัทเทกรัตตสูตร ที่มีใจความย่อว่า “ผู้มีปัญญา
ไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรมุ่งหวังสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
สิ่งใดที่ล่วงไปแล้ว สิ่งนั้นก็ละไปแล้ว และสิ่งใดที่ยังมาไม่ถึง
สิ่งนั้นก็ยังไม่ถึง...... นั้นแลว่า ผู้มีราตรีเดียวเจริญ” เราเผากิเลส