ข้อความต้นฉบับในหน้า
Bsu:
เร
พิจารณาปล่อยวางในขันธ์ ๕
๒๓๐
เราจะเดินทางไปสู่สัมปรายภพอย่างปลอดภัยและมีชัยชนะ
*เหมือนพระติสสเถระ ที่ท่านหมั่นพิจารณาความ
ไม่เที่ยงของสังขารร่างกาย ก่อนออกบวช ท่านเคยเป็นลูกของ
มหาเศรษฐี แต่ท่านมีดวงปัญญาเห็นว่าทรัพย์สมบัติภายนอก
ไม่ได้ช่วยให้ท่านพ้นจากทุกข์ภัยในวัฏสงสารไปได้ จึงขออนุญาต
บิดามารดาออกบวช พอบวชได้ไม่กี่พรรษา บิดามารดาของ
ท่านก็เสียชีวิตลง แต่ก่อนตายได้มอบทรัพย์สมบัติที่หามาได้
ทั้งหมด ให้กับท่านครึ่งหนึ่ง และก็ให้กับโยมพี่สาวอีกครึ่งหนึ่ง
แต่เนื่องจากว่า พี่สาวเป็นคนไม่ได้นับถือพุทธศาสนา
ไม่ได้เลื่อมใสในพระรัตนตรัย อยากได้สมบัติที่พ่อแม่มอบให้
พระน้องชาย เอามาเป็นของตนเอง จึงว่าจ้างโจรไปดักฆ่าท่าน
ที่กุฏิ โจรพอได้รับค่าจ้างเป็นจำนวนเงินมหาศาล ก็พากันไปดัก
รอที่กุฏิกลางป่าของท่าน ซึ่งท่านบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ตามลำพัง
ในเวลากลางคืน พอโจรออกมาจากที่ซ่อน แล้วเข้าไปจับมัดแขน
มัดขาท่านเอาไว้ ตั้งใจว่าจะนำไปฆ่าไม่ให้ใครรู้ ท่านได้อ้อนวอน
พวกโจรว่า “อย่าเพิ่งฆ่าอาตมาตอนนี้เลย ขอให้รอจนถึงรุ่งเช้า
ก่อนเถอะ อาตมาไม่หนีไปไหนหรอก”
พวกโจรฟังแล้วก็ยังไม่เชื่อกลัวท่านจะหลบหนีไปเสียก่อน
*มก. เล่ม ๑๔ หน้า ๒๖๗