ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
รู้แจ้งด้วย ธรรมกาย
៨៥
เราเรียกผู้สิ้นอาสวะนั้นว่า เป็นพระอรหันต์”
วังคีสะได้กราบทูลว่า “พระองค์ผู้เจริญ เรามาแลกเปลี่ยน
วิชากันเถิด ข้าพระองค์จะถวายมนต์ที่ข้าพระองค์รู้แด่พระองค์
ขอพระองค์ได้โปรดตรัสบอกมนต์นั้นแก่ข้าพระองค์ด้วย”
พระศาสดาตรัสว่า “วังคีสะ เราจะไม่แลกมนต์กับเธอ เราจะให้
อย่างเดียวเท่านั้น แต่เมื่อเราจะให้มนต์นี้ ต้องให้แก่ผู้เป็น
บรรพชิตเท่านั้น”
วังคีสะคิดว่าถ้าเราได้เรียนรู้มนต์นี้แล้ว ก็จะทำให้เรา
เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งชมพูทวีป จึงตัดสินใจขอบวช
เนื่องจากท่านเป็นผู้มีปกติไม่อิ่มในการแสวงหาความรู้ จึงได้
ตั้งใจเรียนพุทธมนต์ ซึ่งพระพุทธองค์ทรงสอนเกี่ยวกับเรื่อง
อาการ ๓๒ ท่านเป็นผู้มีปัญญามาก จึงเห็นความเสื่อมสิ้นไป
ของสังขารอย่างรวดเร็ว สามารถยกจิตขึ้นสู่ไตรลักษณ์
เจริญวิปัสสนา แล้วได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ผู้สมบูรณ์
ด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้รู้แจ้งทั้งในภพและนอกภพ และ
รับการยกย่องให้เป็นเอตทัคคะในด้านผู้มีปฏิภาณฉลาด ในการ
ผูกบทคาถา
เพราะฉะนั้น ความรู้อันสูงสุดก็มีอยู่ในพระพุทธศาสนา
นี่แหละ เป็นความรู้แจ้งที่เกิดจากการเห็นแจ้ง เห็นเพราะมี