ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาช
สัญญาแห่งความเลื่อมใส
๔๕๗
เนื่องจากในอดีตชาติ ท่านเคยเจริญพุทธานุสติเนืองนิตย์
แม้มาเกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธเจ้าก็ตาม แต่ท่านก็นึกขึ้นมาได้
แล้วทำจิตของตนให้เลื่อมใสในพระญาณของพระทศพล เกิด
ความปีติ มีใจผ่องใส นึกถึงพระพุทธเจ้าไว้ในใจ โดยทำความรู้สึก
คล้ายกับว่า ได้นั่งอยู่เฉพาะพระพักตร์ของพระบรมศาสดา
ท่านนั่งขัดสมาธิคู้บัลลังก์ อยู่บนอาสนะที่ปูลาดด้วยใบไม้
ทำความเพียรไม่เลิกรา จนกระทั่งสิ้นชีวิตอยู่ในอิริยาบถนั้นเอง
ด้วยอานุภาพแห่งใจที่ผ่องใส ไม่เศร้าหมอง เมื่อละโลก
แล้ว จึงไปบังเกิดในพรหมโลก สมกับที่พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า
“จิตฺเต อสงฺกิลิฏเฐ สุคติ ปาฏิกงฺขา
เมื่อจิตผ่องใสไม่เศร้าหมอง บุคคลพึงหวังสุคติได้”
ด้วยอานิสงส์ที่ท่านได้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า มีพระพุทธเจ้า
เป็นอารมณ์ ในกัปที่ ๓๑ แต่กัปนี้ ไม่เคยรู้จักทุคติเลย คือ
ไม่เคยตกไปสู่อบายภูมิ ไม่เกิดเป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย และ
สัตว์เดียรัจฉาน ในกัปที่ ๒๗ ที่ผ่านมา ท่านได้เกิดเป็นพระเจ้า
จักรพรรดิผู้สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการทีเดียว
ในภพชาติสุดท้าย ในสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ของเรา ท่านเกิดในตระกูลสูง ที่มีความพรั่งพร้อมด้วยโภคทรัพย์-
สมบัติ พออายุได้ ๗ ขวบ บุญเก่าก็มาเตือนให้สอนตัวเองได้ว่า