ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาชน
ทำจิตให้เลื่อมใส
๑๒๗
สามีจึงบอกภรรยาว่า “ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ เราก็ยังสามารถ
ที่จะมีลูกได้อีก เราทิ้งลูกไว้ที่นี่เถิด” แต่ธรรมดาดวงใจของ
ผู้เป็นแม่ ย่อมมีความรักความปรารถนาดีต่อลูกน้อยยิ่งกว่า
ชีวิตของตน ภรรยาจึงไม่ยอมทอดทิ้งลูก ได้กล่าวทัดทานสามีว่า
“ฉันไม่อาจจะทิ้งลูกผู้เป็นดั่งดวงใจได้ ฉันจะอุ้มลูกเอง”
สองสามีภรรยาได้ผลัดเปลี่ยนกันอุ้มลูกน้อย ฝ่ายสามี
ก็เกลี้ยกล่อมภรรยาบ่อยๆ ว่า “ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ เราก็ยังสามารถ
มีลูกใหม่ได้ ลูกคนนี้อย่าเอาไว้เป็นภาระเลย” แต่ภรรยาก็ได้
ทัดทานไว้ทุกครั้ง เด็กน้อยได้ถูกเปลี่ยนกันอุ้มจนเหนื่อยอ่อน
นอนหลับอยู่ในอ้อมแขนของผู้เป็นพ่อ
สามีรู้ว่าลูกชายหลับแล้ว
จึงปล่อยให้ภรรยาเดินนําหน้าไปก่อน แล้วได้วางเด็กให้นอน
ตากแดดอยู่บนหนทาง
ภรรยาเมื่อเดินไปได้สักครู่ใหญ่ เหลียวหลังกลับมาเพื่อ
จะอุ้มลูก แต่ไม่เห็นลูกจึงถามสามีว่าลูกอยู่ไหน สามีบอกนอน
หลับอยู่เลยไม่ได้อุ้มมา เมื่อเดินกลับไปหาลูก เด็กน้อยได้เสีย
ชีวิตลงเสียแล้ว ภรรยาจึงรู้สึกเสียใจมาก ที่ลูกต้องมาตายอย่าง
อเนจอนาถ และด้วยกรรมที่ทิ้งลูกในครั้งนี้ ทำให้นายโกตุหลัก
ต้องถูกทิ้งถึง ๗ ชาติด้วยกัน
สองสามีภรรยาได้เดินทางไปจนถึงบ้านของคนเลี้ยงโค