ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาช
รัตนตรัยที่พึ่งแหล่งสุดท้าย
๖๕
ผู้เป็นสามีตายไปแล้ว นางเองรู้สึกละอายใจที่จะกลับบ้าน
เพราะเกรงว่าจะถูกบิดามารดาตำหนิ จึงตัดสินใจถอดเครื่อง
ประดับทิ้งเสีย แล้วหนีไปบวชอยู่ในสำนักของปริพาชกแห่งหนึ่ง
กุณฑลเกสีเป็นคนมีสติปัญญาหลักแหลม บวชแล้ว
ไม่นานก็เรียนสำเร็จในความรู้ของพวกปริพาชก ซึ่งมีวิชา
“วาทะพันหนึ่ง” ในการถามตอบปัญหา ครั้นเห็นว่าไม่มีความรู้
อะไรใหม่เพิ่มเติม จึงออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อ
แสวงหาความรู้ เมื่อไปถึงหมู่บ้านหรือนิคมแห่งใด นางจะก่อ
กองทรายไว้ที่ปากทางเข้าหมู่บ้านหรือนิคมแห่งนั้น แล้วปักกิ่ง
ไม้หว้าไว้บนกองทรายเป็นเชิงท้าทายว่า “ผู้ใดสามารถตอบ
ปัญหาของเราได้ ขอให้ผู้นั้นจงเหยียบกิ่งไม้หว้ากิ่งนี้” พอพ้น
๗ วันแล้ว ถ้ากิ่งไม้หว้าคงปักอยู่อย่างเดิม ก็แสดงว่าไม่มีใคร
ตอบคําถามของนางได้ และจะถือกิ่งไม้หว้าแล้วไปแสวงหาที่อื่น
ต่อไป
นางเดินทางไปจนถึงเมืองสาวัตถี แคว้นโกศล หลังจาก
ก่อกองทรายไว้ที่ปากทางเข้าเมือง และปักกิ่งไม้หว้าไว้บน
กองทราย พระสารีบุตรบิณฑบาตผ่านมา เห็นเด็กกลุ่มหนึ่งยืน
ล้อมกิ่งไม้หว้าอยู่จึงถามว่า “นั่นอะไร” เมื่อพระเถระทราบเรื่อง
จากเด็กแล้ว จึงให้เด็กเหยียบกิ่งไม้หน้านั้น นางกุณฑลเกสีก็
เข้ามาดุเด็กเหล่านั้นว่า กิจด้วยปัญหาของเจ้าไม่มี ทำไมจึง