ข้อความต้นฉบับในหน้า
Dsuem ประชาช
พระอริยเจ้า
៥០៩
โมหะคือความหลงได้ห่อหุ้มสัตว์โลกไว้ จึงเป็นสิ่งที่เราจะต้อง
สลัดให้หลุด เหมือนออกจากที่มืดไปสู่ที่แจ้ง ไปสู่แสงสว่างแห่ง
ธรรมให้ได้
ส่วนพระอริยสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ท่านละโมหะ
ได้แล้ว ทำลายข่ายแห่งความมืดได้แล้ว จึงไม่ต้องท่องเที่ยวไปอีก
อวิชชาอันเป็นต้นเหตุแห่งสงสาร ก็ถูกท่านตัดขาด ตัดภพตัดชาติ
ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดกันอีกต่อไป พระอริยเจ้าก็คือผู้เข้าถึง
กายธรรม ตั้งแต่กายธรรมพระโสดาบันเป็นต้นไป ได้เป็นโสดาบัน
บุคคล หมายถึงผู้ถึงกระแสพระนิพพานแล้ว ตัดขาดจากสังโยชน์
เบื้องต่ำา ๓ ประการ คือ สักกายทิฏฐิ ความเห็นเป็นเหตุให้ถือตัว
ถือตน วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยในพระรัตนตรัย สีลัพพตปรามาส
การถือมั่นในศีลพรตที่เป็นความเชื่อผิดๆ ก็หลุดหมด มาเกิดอีก
อย่างมากไม่เกิน ๗ ชาติ ก็จะได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
พระอริยเจ้าที่มีคุณธรรมสูงขึ้นไปอีก คือ พระสกทาคามี
หมายถึงพระอริยเจ้าผู้มาสู่โลกนี้อีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
เข้าสู่นิพพาน ท่านขจัดสังโยชน์เบื้องต่ำ ๓ อย่างได้หมด มีศีล
บริสุทธิ์บริบูรณ์ ราคะ โทสะ โมหะ ก็เบาบางลงมาก หากเป็น
พระอนาคามี คือผู้ที่ไม่ต้องมาสู่โลกนี้อีกแล้ว สามารถกำจัด
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยได้หมดสิ้น เมื่อละโลกไปแล้ว ก็ไป
เสวยสุขในพรหมโลกชั้นสุทธาวาส ตามกำลังความแก่อ่อนของ
ก็จะ