ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
ผู้คู่ควรแก่ความกตัญญู
๑๔
จะต้องสละทั้งทรัพย์ สละทั้งอวัยวะ สละทั้งชีวิต ต้องลำาบากไป
นับภพนับชาติไม่ถ้วน
แต่พระพุทธองค์ก็ไม่ทรงย่อท้อ แม้เส้นทางการสร้าง
บารมีจะมีอุปสรรคมากมายเพียงใด ก็ไม่เคยนึกถึง คิดแต่ว่า
เป้าหมายหรือความปรารถนานั้นต้องสมหวัง ทรงสร้างความดี
เช่นนั้นสืบเนื่องมายาวนานนับภพนับชาติไม่ถ้วน พระองค์ทรง
สละเลือดมากกว่าน้ำในมหาสมุทร สละเนื้อมากกว่าแผ่นดิน
ควักลูกตาออกทำทานก็มากกว่าดวงดาวบนท้องฟ้าตัดศีรษะบูชา
ธรรมมากกว่าผลมะพร้าวในชมพูทวีป ทรงทำอย่างนั้นมา
ตลอดทุกภพทุกชาติ จนกระทั่งถึงวาระที่บารมีเต็มเปี่ยมแล้ว
จึงคอยโอกาสแห่งการตรัสรู้ธรรม
ในภพชาติสุดท้าย การประสูติของพระพุทธองค์ก็
แตกต่างจากการเกิดของชาวโลก ทันทีที่พระองค์ประสูติทรง
ดำเนินไป ๗ ก้าว มีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับ นี่เป็นความ
อัศจรรย์ของการมาบังเกิดขึ้นของผู้มีบุญ รวมทั้งเกิดมาก็พูดได้
คําที่พูดนั้นก็ไม่เหมือนกับคำพูดของมนุษย์ธรรมดาทั่วไป เป็น
อาสภวาจา คือ วาจาเปล่งออกมาด้วยความองอาจ ทรงเปล่ง
วาจาว่า “ในโลกนี้เราเป็นหนึ่ง เราเป็นผู้เลิศประเสริฐที่สุด
การเกิดครั้งนี้ของเราเป็นชาติสุดท้าย ภพใหม่ต่อไปอีกไม่มี
สําหรับเรา” นี่เป็นวาจาที่ยิ่งใหญ่ เป็นนิมิตหมายแห่งการ