ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
ทางมาแห่งคุณธรรม
ဓာတ်
ง่ายมากพระเจ้าข้า แม้ข้าพระองค์จะกล่าวสอนอย่างไร ก็ไม่เคย
โกรธเคือง แต่กลับน้อมรับด้วยความเคารพเอื้อเฟื้อ พระเจ้าข้า”
พระพุทธองค์จึงตรัสถามว่า “ดูก่อนสารีบุตร ถ้าเธอมี
ศิษย์อย่างนี้ จะรับได้อีกประมาณกี่รูปล่ะ” พระเถระตอบว่า
“ข้าพระองค์สามารถรับได้มาก พระเจ้าข้า” จากนั้นพระพุทธองค์
จึงทรงสรรเสริญพระราธะต่อหน้าเหล่าภิกษุสงฆ์ว่า “ภิกษุทั้งหลาย
ธรรมดาภิกษุควรเป็นผู้ว่าง่ายเหมือนราธะ แม้อาจารย์กล่าวชี้โทษ
พร่าสอนอยู่ ก็ไม่ควรโกรธ อนึ่งควรเห็นบุคคลผู้คอยชี้โทษ เหมือน
บุคคลผู้ชี้บอกขุมทรัพย์ให้ฉะนั้น” แล้วได้ตรัสพระคาถานี้ว่า
“นิธีบ๋ว ปวตฺตาร์
นํ ปสฺเส วชฺชทสฺสินํ
นิคฺคยฺหวาที เมธาวี ตาทิสํ ปณฺฑิต ภูเช
ตาทิสํ ภชมานสฺส
เสยฺโย โหติ น ปาปิโย
เมื่อบุคคลเห็นผู้มีปัญญาใด ซึ่งเป็นผู้กล่าวข่ม คอย
ชี้โทษว่าเป็นเหมือนผู้ชี้บอกขุมทรัพย์ให้ ควรคบผู้มีปัญญา
เช่นนั้น ซึ่งเป็นบัณฑิต เพราะว่าเมื่อคบท่านผู้เป็นเช่นนั้น
ย่อมมีแต่คุณอันประเสริฐ ไม่มีโทษเลย”
เพราะฉะนั้น เวลามีใครมาชี้โทษตักเตือนเรา ก็อย่าได้ขุ่น-
มัว ถ้าเราพิจารณาดูแล้วพบว่า เราผิดจริงก็แก้ไขปรับปรุงเสีย
ถ้าไม่ผิดก็รับฟังด้วยความเคารพ แล้วค่อยๆ ปรับความเข้าใจ