ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
ปุจฉา-วิสัชนา
៤២៩
การเจริญสมาธิภาวนาเป็นทางมาแห่งมหากุศล และ
เป็นทางลัดของการสร้างบารมี เพื่อมุ่งตรงสู่ที่สุดแห่งธรรม
ทุกครั้งที่เราได้เจริญสมาธิภาวนา นำใจมาหยุดนิ่งที่ศูนย์กลาง
กายฐานที่ ๗ ธาตุธรรมเห็น จำ คิด รู้ ในตัวของเรา จะถูกกลั่น
ให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ ซึ่งความบริสุทธิ์จะเป็นทางมาแห่งความสุข
ความสุขที่เกิดจากใจหยุดนิ่งนี้ เป็นสิ่งที่มวลมนุษยชาติต่างพา
กันแสวงหา เพราะเป็นสุขที่เสรีกว้างขวางไร้ขอบเขต ไม่มีใคร
มาพรากเอาความสุขชนิดนี้จากเราไปได้ ทั้งยังเป็นเหตุให้ขจัด
กิเลสอาสวะ ชำระมลทินของใจ ให้เข้าถึงพระธรรมกายภายใน
ได้อีกด้วย
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ทุติยกาลสูตร ว่า
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้ อันบุคคลบำเพ็ญ
โดยชอบ เปลี่ยนแปลงโดยชอบ ย่อมจะยังบุคคลให้ถึงความ
สิ้นอาสวะโดยลำดับ กาล ๔ คือ ฟังธรรมตามกาล ๑
สนทนาธรรมตามกาล ๑ ทำสมถะตามกาล ๑ ทำวิปัสสนา
ตามกาล ๑”
ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนเมื่อฝนเม็ดหนาตกบนภูเขา
น้ำไหลไปตามที่ลุ่ม ยังซอกเขาและลำธารให้เต็ม เมื่อซอกเขา
และลำธารน้ำเต็มแล้ว ย่อมยังหนองให้เต็ม หนองเต็มแล้วย่อม
ยังบึงให้เต็ม บึงเต็มแล้วย่อมยังคลองให้เต็ม คลองเต็มแล้ว