ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
พญานกแขกเต้า
ာက
แขกเต้าอยู่ตัวหนึ่งสวยกว่าทุกตัว พอกินเสร็จแล้ว ก็มักจะคาบ
ข้าวสาลีกลับไปด้วย”
พราหมณ์ฟังแล้ว ก็นึกชอบพญานกแขกเต้าขึ้นมา
จึงบอกว่า “เจ้าจงใช้บ่วง ดักจับพญานกมาให้เรา” วันรุ่งขึ้น
คนเฝ้าไร่จึงใช้บ่วงดักพญานกแขกเต้า ในที่ที่คิดว่าพญานก
จะลงมากินข้าวสาลี เพราะได้สังเกตเห็นพญานกมักจะบินลง
มาที่เดิมทุกวัน
วันต่อมาพญานกแขกเต้าก็ร่อนลงมาที่เดิมอีก จึงติด
บ่วงที่วางดักไว้ เมื่อรู้ว่าตนติดบ่วงแล้ว ก็คิดว่า “ถ้าเราส่งเสียง
ร้องเอะอะในเวลานี้ พวกญาติของเราก็จะตกใจบินหนีไป โดย
ไม่ได้กินข้าวสาลี เราต้องอดกลั้นไว้ จนกว่าพวกญาติจะกินจนอิ่ม”
เมื่อรู้ว่าพวกนกกินจนอิ่มแล้ว จึงได้ส่งเสียงร้องออกมา นก
เหล่านั้นรู้ว่ามีอันตรายเกิดขึ้น ก็ตกใจพากันบินหนีไปหมด
คนเฝ้าไร่ได้ยินเสียงร้องของนกเหล่านั้นแล้ว ก็ลงจาก
กระท่อมไปที่วางบ่วง เห็นพญานกแขกเต้าก็จับมัดขาทั้งสองไว้
แล้วนำไปให้พราหมณ์ เมื่อพราหมณ์เห็นพญานกแล้ว ก็อุ้มมา
นั่งบนตักด้วยความรัก แล้วกล่าวว่า “นกแขกเต้าเอ๋ย ท้องเจ้า
คงจะใหญ่กว่าท้องของนกตัวอื่นเป็นแน่ ถึงกินข้าวของเรา แล้ว
ยังคาบเอากลับไปอีก เจ้ามีฉางสำหรับเก็บข้าวไว้หรือ หรือว่า