ข้อความต้นฉบับในหน้า
Bะ ประชา l
ตบะธรรมนำชีวิต สู่นิพพาน
๕๑๒
พระบรมศาสดาทรงห้ามว่า “อานนท์ การทำอย่างนั้น
ไม่ควร อธิกรณ์เกิดขึ้นในทีใด ก็ควรดับอธิกรณ์ในที่นั้น เมื่อ
อธิกรณ์สงบจึงสมควรไปเมืองอื่น ดูก่อนอานนท์ เราตถาคต
เป็นเช่นช้างที่เข้าสู่สงคราม การอดทนต่อลูกศรที่แล่นมาจากทิศ
ทั้ง ๔ เป็นภาระของช้างที่เข้าสู่สงคราม ฉันใด ชื่อว่าการอดทน
ต่อถ้อยคําที่ชนผู้ทุศีลกล่าวแล้ว เป็นภาระของเรา ฉันนั้น”
นี่เป็นตัวอย่างที่พระบรมศาสดาทรงประสบด้วย
พระองค์เอง เพียง ๗ วันเท่านั้น ผู้ที่มาตามด่าว่าบริภาษ
พระองค์ก็เลิกหมด แล้วเปลี่ยนมาฟังธรรม จนสำเร็จเป็นพระ
โสดาบันกันมากมาย นี่ก็เพราะอาศัยความอดทน และมหา
กรุณาอันหาประมาณมิได้ของพระพุทธองค์ ทำให้พุทธศาสนา
เจริญรุ่งเรืองมาได้จนถึงทุกวันนี้
โบราณท่านกล่าวไว้ว่า “ให้ท่าตาเหมือนตาไม้ไผ่ ให้
ทําใจเหมือนแผ่นดิน ได้ยินเรื่องราวอะไรก็ให้ทำหูเหมือนหูกะทะ
ทําตนเองให้เหมือนผ้าเช็ดเท้า” ตาไม้ไผ่มันไม่มีความรู้สึกอะไร
ใครเดินผ่านไปผ่านมามันก็เฉย เห็นสักแต่ว่าเห็น ไม่ยินดี
ยินร้ายอะไร และทําใจให้หนักแน่นเหมือนแผ่นดิน ไม่ว่าจะโดน
เหยียบโดนย่าสักกี่เท้า แผ่นดินก็ไม่ได้ไปเดือดเนื้อร้อนใจ ยังคง
สงบนิ่งเฉย ดังนั้นเราต้องรักษาใจให้เป็นกลางๆ อย่าได้ไปยินดี
ยินร้ายกับเสียงใดๆ