ข้อความต้นฉบับในหน้า
Boประช
แม้ตายก็ไม่ทิ้งธรรม
๕๑๘
เกิดความโลภต้องการทรัพย์ กลัวว่าถ้าเมื่อไร สามีกลับมา
สมบัติจะเปลี่ยนมือ จึงส่งโจรถึง ๕๐๐ คน ให้ไปฆ่าท่านที่ป่า
เมื่อพวกโจรได้ค่าจ้างแล้ว ก็พากันไปล้อมท่านไว้ ท่านถามว่า
“ท่านอุบาสกมาทำไมกัน” พวกโจรตอบว่า “มาฆ่าท่านน่ะสิ”
ท่านคิดว่า “ตัวของเรายังไม่ได้บรรลุมรรคผลอะไรเลย การ
ตายไปโดยที่ไม่มีที่พึ่งที่ระลึกนั้น เป็นชีวิตที่ว่างเปล่า ถ้าอย่างไร
ขอให้เรามีชีวิตอยู่อีกสักคืนหนึ่งเถิด เพื่อทำความเพียร”
พวกโจรก็ไม่ยอม กลัวท่านจะหนีไป พระเถระจึงยกก้อนหินก้อน
ใหญ่ทุบกระดูกขาทั้งสองข้าง เพื่อให้พวกโจรเบาใจว่า ท่านไม่
หนีไปไหนแน่นอน
พวกโจรเห็นดังนั้น ก็อนุโลมตามความต้องการของท่าน
แต่ได้ก่อไฟนอนเฝ้าใกล้ที่จงกรม พระเถระข่มเวทนา พิจารณา
ถึงศีลที่บริสุทธิ์ ท่านเกิดปีติปราโมทย์ ใจเริ่มหยุดนิ่งไปตามลำดับ
ท่านทำสมณธรรมตลอดคืน ครั้นเวลาล่วงไปถึงมัชฌิมยาม
ความละเอียดของใจก็เพิ่มมากขึ้น ทุกขเวทนาหายเป็นปลิดทิ้ง
ครั้นละยามสามใกล้อรุณขึ้น ท่านได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
ทําให้พ้นทุกข์และสมปรารถนาในชีวิตตามที่ตั้งใจไว้ ที่เล่ามานี้
เป็นเรื่องราวของการยอมทิ้งชีวิต แต่ไม่ยอมทิ้งธรรม
อีกเรื่องหนึ่งที่จะนํามาเป็นตัวอย่างในระหว่างเข้าพรรษา
มีภิกษุ ๓๐ รูป ปรารถนาจะหลุดพ้นจากทุกข์ จึงเรียนกัมมัฏฐาน