ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชll
อดทนให้ถึงที่สุด
๒๖๔
ไปอีกว่า ก่อนที่จะอยู่ในเทวโลก ได้มาจากมหานรกขุมหนึ่ง และ
ก่อนที่จะตกนรก ได้เคยเกิดเป็นพระราชาอยู่ในแคว้นนี้เอง จึง
ทรงดำริว่า ถ้าเราครองราชสมบัติอีก ก็จะต้องสร้างกรรม
และต้องเสวยทุกข์ใหญ่ในมหานรกอีกอย่างแน่นอน จึงเกิด
ความกลัวในสิริราชสมบัติ ทอดพระเนตรเห็นพระราชวัง
เหมือนกับแดนประหารมนุษย์ ต้องการหาอุบายที่จะพ้นไปจาก
พระราชวังนี้ จึงแสร้งทําเป็นคนง่อยเปลี้ย หูหนวก และเป็นใบ้
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา จนกระทั่งมีพระชนมายุได้ ๑๖ ชันษา
พระราชาเข้าพระทัยว่า พระกุมารเป็นคนพิกลพิการ
ก็ทรงโทมนัสเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพราหมณ์กราบทูลว่า “พระกุมาร
เป็นตัวกาลกิณี จะนำภัยมาสู่พระองค์ กับพระมเหสี และจะเป็น
อันตรายต่อเศวตฉัตรของพระองค์ ควรให้นำพระกุมารไปฝังใน
ป่าช้าผีดิบเสีย” พระราชาหลงเชื่อ จึงมีรับสั่งให้ทำตามนั้น
ฝ่ายพระเทวีได้สดับกระแสรับสั่งแล้ว ทรงเศร้าโศกมาก
ประหนึ่งว่าพระทัยจะแตกสลาย ได้แต่รำพันที่จะต้องพลัดพราก
จากพระโอรส แต่พระกุมารกลับมีพระทัยโสมนัส ดำริว่า ความ
พยายามที่เราทำมาตลอด ๑๖ ปี จะสำเร็จสมปรารถนาแล้ว
พอรุ่งเช้า สารถีก็นำเตมียกุมารประทับนั่งบนราชรถ
พระกุมารทอดพระเนตรเห็นพระชนนีร่ำไห้จนกระทั่งหมดสติไป