ข้อความต้นฉบับในหน้า
ทรงบรรลุพระสัพพัญญาณ แล้วเท่านั้น ท่านพระอุบาลีเถร ครั้ง แสดงโฉมดำอย่างนั้นแล้ว จึงกล่าวว่าล็อคประทับไว้ว่า " มหาวนู ถูลการศลาย" (ที่อุบาลีเถรในปามหวั่น).
บรรดาปามหวั่นและอุบาลีเถรนั่น ปาใหญ่โอกาสเป็นที่ กำหนด เกิดเอง ไม่ได้ปลูก ชื่อว่าปามหวั่น ส่วนปามหวั่นใกล้ กรุงเทพอิศพิศฎู เนื่องเป็นอันเดียวกันกับปามหวั่นใด ไม่มีโอกาสเป็น ที่กำหนด ตั้งจดหมายสนบร. ปามหวั่น นี้ไม่เป็นเช่นนั้น คือเป็นปาใหญ่ มีโอกาสเป็นที่กำหนด; เพราะฉะนั้น จึงถือว่าปามหวั่น ส่วนอุบาลีเถร อันถึงพร้อมด้วยอาราธนาทั้งปวง ซึ่งสร้างให้มีหลังคาคล้าย ทรวดทรงแห่งหงส์ ทำเรือนยอดไว้ข้างใน ณ อารามที่สร้างไว้ด้วย ปามหวั่น พึงทราบว่า "เป็นพระคันถกฏีกาสำหรับพระผู้พระภาค- พุทธเจ้า." [พระผู้เป็นพระภาคเจ้าทรงแสดงอุตกรรมฐานแก่พวกภิกษุ] หลายบทว่า อนุกปรียนเย อุตกิ คถติ มีความว่า พระผู้เป็นพระภาคั้นา ทรงแสดงกฎเป็นที่ตั้งแห่งความเบื่อหน่ายในกาย ซึ่งเป็นไปด้วยอำนาจแห่งความเสียดในอารมณ์ด้วยเหตุมากมาย. ทรงแสดงอย่างไร ? ทรงแสดงว่า "มีอยู่ในกายนี้ คือ ผม ขน ฯลฯ ฯมูตร." มีคำอธิบายอย่างไร ? มีคำอธิบายอย่างว่าว่า "คู่คอ ภิกษุทั้งหลาย ! บางคน เมื่อค้นหาดูด้วยความเอาใจใสในทุกอย่างใน กายละมีประมาณวาหนึ่ง จะไม่เห็นสิ่งอะไร ๆ จะเป็นแก้มมูกา หรือแก้มมณี แก้วไพฑูรย์หรืออกุญจา แก่นจันทน์ หรือกำยาน