ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค(ค) - ปฐมสงฆ์ปาสาทิกา ๓ - หน้าที่ 24
สตรี บุษบา ช้าง และม้าเป็นต้น จะเจริญให้ถึงพร้อม ทำไมได้ง่าย
เพราะเสียงเป็นข้อศักดิ์อานนท์ แต่ในป่าซึ่งไม่ใช่บ้าน พระโยคาวจร
กำหนดกรรมฐานนี้แล้ว ยังก็ตกลงอันมีสมาหารถ้าแข้งและหายใจออก
เป็นอารมณ์ให้เกิดแล้ว ทำงานนั่นเองให้เป็นบท พิจารณาสังข์
ทั้งหลาย ได้บรรลุพระอรหันต์เป็นผลที่สุดจะทำได้ง่าย; เพราะเหตุนี้น
พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะทรงแสดงอานิสงส์แห่งอิทธิฤทธิ์นั้น จึง
ตรัสพระพุทธมนต์ว่ากว่า " อรุณอคโต วา " ดังนี้ แต่ว่า พระผู้มี
พระภาคเจ้า เป็นประคูอาจาร ผู้ทรงวิทยาคุณรู้ภูมิพื้นที่นี้, อาจารย์ผู้
ทรงวิทยาพื้นที่ เห็นพื้นที่ที่จะสร้างนครแล้ว พิจารณาโดยตรึกแล้ว
ชี้ว่า " ขอพระองค์จงโปรดสร้างนครในที่นี้ " เมื่อนครสำเร็จแล้ว
โดยสวัสดี ย่อมได้มหาสัปกะแต่ราชะกุล ฉันใด พระผู้มีพระภาค-
เจ้านั้น ทรงพิจารณาเสนาะอันสมควรแก่พระโพธาวรแล้ว ย่อม
ทรงซีวิต " กรรมฐาน อันกูสูตรผู้มีความเพียรพึงพาพึงพยายามใน
ที่นี่ " แต่นั้น เมื่อพระโยคาวจรประกอบกรรมฐานอยู่ในเสนาะนั้น
แล้ว บรรลุพระอรหันต์โดยลำดับ ย่อมได้มหาสัปกะว่า: " พระผู้ม-
พระเจ้านั้นเป็นสมมสมุทรพุทธเจ้ากัล " ฉันนั้นเหมือนกัน ส่วนภิญ๙
นี้น่ว่า " เช่นกับพยัคฆ์." เหมือนอย่างพญาเสื้อใหญ่ แออัศัย
พงหนู่ ชูป่า หรือเทือกเขา อยู่ในไพร ย่อมจับหมูดุกมีรัษะเป็นปือป่า
ชะมด (หรือกาวง) และสุกระเป็นต้น (เป็นภิทฺพล) ฉันใด ภิกุพาก
เพียรกรรมฐานอยู่ในเสนาะอันมีเป้นต้น คีนนั้น บัดนี้พึงทรงทรา-
ว่า " ย่อมยืดไว้ซึ่งสิคาตปัดิมรรค สทกามิมรรค อนาคามิมรรค
อรหัตมรรค และอธิบายโดยลำดับ " เพราะฉะนั้น พระโบธาจารย์