ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค (จบ) - ปฐมมันดาปสาทิกาา ตอน ๓ - หน้า 89
ความประสงค์. เธอคิดอยู่ในใจว่า " เมื่อมนุษย์ถูกพระแทนแล้ว บิดาของเราก็จักหนีไป" ดังนี้แล้ว จึงยิงลูกศรไป, ลูกศรไม่พุ่งไปตามความประสงค์ กลับทำให้นิตตาย, เธอจึงนึก "ปฐมมัน" (ผู้มิบิดา) ด้วยอำนาจแห่งโวหาร, แต่ไม่เป็นอนุศิษยธรรม ด้วยประการะนี้แล.
บทว่า อธิฆฏิจิตวา ได้แน่ ยืนอยู่ในที่ใกล้. บทว่า อนาถปดิ ได้แกะกุฏิผู้สง สั่งจะตัวหรือไม่จะแต้ง. บรรดาก็สั่งจะตัวไม่จะแน่นั้น ครับนุ่เสนาฝ่ายข้าศึก ปรากฏขึ้นเฉพาะแล้ว เมื่อภิกษุผู้สั่งไม่เจาะตัวเลยว่า "เธอจงแทงอย่างนี้ จงประหารอย่างนี้" เป็นป านาถิดาบแก้เธอทั้ง ๒ รูป มีประมาณเท่าจำนวนขั้วที่กุฏิผู้รับสั่งมา. บรรดาก็ผู้สั่งและผู รับสั่งนั้น. ถ้ากุฏิผูสั่งมีมารคและบิดาอยู่ด้วย, เธอผ.สั่ง ย่อมต้องอนุศิษยธรรมด้วย, ถ้าพระอธิฏููอุ่งด้วย, เธอแม้ทั้ง ๒ รูป ย่อมต้องอนุศิษยาธรรมด้วย. ถ้ากุฏิผู้สั่งเท่านั้น มีมารคและบิดาอยู่ (ในสนามรบ), ก็ผูสั่งนั้นนั้นแล ย่อม ต้องอนุศิษยาธรรม. แต่เมื่อก็ผูสั่ง สั่งจะตัวว่า "เธอจงแทง ง" ประหาร งมานิรบกนั่นนั่น. ผู้สูง ตำ มีเสื้อสีแดง มีเสื้อสีเขียว ซึ่งนั่งอยู่บนคอช้าง (หรือ) นั่งอยู่กลาง (หลังช้าง), ถ้ากุฏิผู้สั่ง นั้นมานักรบคนนั้นนั่นเอง, เป็นปานิดามากแม้ด้วยกันทั้ง ๒ รูป, และในเรื่องแห่งอนุศิษยธรรม ย่อมต้องอนุศิษยาธรรมด้วยกันทั้ง ๒ รูป ถ้ากุฏิผูสั่งมาค่อนอั่นตาย, ปานิดตาย ย่อมไม่มีเกิดกุสังข์. อนัตติกประโยค ย่อมเป็นอันท่านกล่าวไว้แล้ว ด้วยคำว่า "อธิฆฏิจิตวา อนาถปดิ" เป็นต้นนั้น.