ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค(ค): ปฐมสมุนไพรจากแสงเทา ๓ - หน้า 67
พิจารณายุ่งปีติทีสู้ปีตด้วยอาโมน โดยความสิ้น ความเสื่อม. เธอทำปีติที่สัปปุริปุณด้วยอาโมนให้เป็นอารมณ์ ในขณะแห่งวิปัสสนาอย่างนั้นแล้วให้จุติรื่นเริง บันเทิงอยู่ ผู้ปฏิบัติอย่างนั่น ท่านเรียกว่า "ย่อมสำเหนียกว่า "เราจะยังจิตให้มันเทิง หายใจข้างในอออก." สองบทว่า สมาทิ จิตติ ความว่า ดำรงจิตไว้เสมอ คือดังจิตไว้เสมอในอารมณ์ ด้วยอำนาจแห่งสมาธิอันมีปฐมสมุนไพรเป็นต้น ก็heiraว่า เมื่อเธอเข้ามาในอารมณ์ก็สิ่งทีสัปปุรุปุณ ด้วยอำนาจ โดยความสิ้น ความเสื่อม ความที่ดีอารมณ์เดียวชั้นนะ ( ขณิตสมาธิ ) ย่อมเกิดขึ้น เพราะการแทงตลอดลักษณะในขณะแห่งวิปัสสนา ภิกษุผู้ดำรงไว้เสมอ คือดังจิตไว้เสมอในอารมณ์ แม้ว่าด้วยอำนาจแห่งความดีอารมณ์เดียวชั้นนะ ซึ่งเกิดขึ้นแล้วอย่างนั้น ท่านก็เรียกว่า "ย่อมสำเหนียกว่า " เราจัตตั้งไว้ในจัย หายใจเข้าหาออกเอง." สองบทว่า วิรมเมย จิตติ ความว่า เมื่อเปลือง เมื่อปล่อยจิตให้พ้นจากนิวรณ์ทั้งหลาย ด้วยปฐมสมุนไพร คือเมื่อเปล่งปล่อยให้พ้นจากวิกิรา ด้วยฤทธิ์เจน จากจิตดิ ด้วยดติตุเจน จากทุกขเวทนา ด้วยชุดคุณนาน จากจิตดี ด้วยคติอนุญา ฯน จากสูขเวทุใดก็ด้วยชุดคุณน. ก็หรือว่า เธอเข้ามาเหล่านั้นแล้วออกมาพิจารณาอยู่ซึ่งจิตทีสัปปุรุปุณด้วยอารมณ์ โดยความสิ้น ความเสื่อม, ในขณะแห่งวิปัสสนา เธอนัันปล่อย คือปล่อยอธิตให้พ้นจากจินาสัญญา ( ความสำคัญว่าที่ไม่เที่ยง ) ด้วยอิญากจาปสสนา ( ความพิจารณานั้นว่าไม่เที่ยง ) ปล่อย คือปล่อยจิตให้พ้นจากสุขสัญญา ( ความสำคัญว่าเป็นสุข ) ด้วยทุกขานปสสนา ( ความพิจารณาเห็นว่าเป็นทุกข์ ) จากอัตสัญญา ( ความสำคัญว่าเป็นตัวตน ) ด้วยอัตตนาทปุรสสนา ( ความพิจารณาเห็น