ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค(ตัว) - ปฏิสัมภิทา สถานที่กาลา ภาค ๓ - หน้า 18
ปานสุทธิสมาธิ " เป็นต้น. บัดนี้ เพราะว่า พระผู้พระภาคเจ้าตรัสบาแล้ว เพื่อทรงแสดงพระธรรมฐาน ที่เป็นคุณงามและประณีตรถี ๆ แก่กุฎิทั้งหลาย, ฉะนั้น ข้าพเจ้าจักทำภารกิจในพระบารมี ตามลำดับอรรถโยชนา ไม่มีจะทิ้งเสียไป.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อยามิ โข ภิกขเว เป็นต้นนี้
มีโภชนาดังต่อไปนี้ก่อนว่า " คู่คอภิกข์ทั้งหลาย ! อดุลภาพวาอย่างเดียวเท่านั้น ย่อมเป็นไปเพื่ออะไรละอย่าง หมายได้, อะไรอย่างหนึ่ง อาน-ปานสติสมาธิแม้นแล้ว อันภิกขุปารรมมิทำให้มาถึงแล้ว ย่อมเป็นคุณสงบประณีต เยือกเย็น อยู่เป็นสุข และยงบาปอรรถธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ๆ ให้อนุตรรมสงบไปโดยฉับพลัน." ถ้าในคำว่า " อานาปนาสุทธิสมาธิ " เป็นต้นนี้ มีอรรถวรรณนังต่อไปนี้ :-
สติทนัมคามายใจเข้าและลมมายใจออก ชื่อว่า อานาปนัสสติ. สมจริงดังคำพระธรรมเสนาบดีสรารุภรณ์กล่าวไว้ในปฏิสัมภิทว่า " ลมหายใจเข้า ชื่อว่า อานะ ไม่ใช่ปัสสาวะ, ลมหายใจออก ชื่อว่า ปานะ ไม่ใช่ปัสสาวะ, สติชำไปตั้งอยู่ ด้วยอำนาจลมหายใจเข้า สติเข้าไปตั้งอยู่ ด้วยอำนาจลมหายใจออก ย่อมปราบกามุผูถ่ายใจเข้า ย่อมปราบกามุผูถ่ายใจออก"
ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับสติที่กำหนดลมหายใจเข้าและหายใจออกนั่น ชื่อว่า สมาธิ ก็เท่านั้น ท่านกล่าวไว้ด้วยหัวข้ออธิษฐานว่า ถ้าใช้อวัยวะอธิษฐานไม่ใช่ด้วยหัวข้ออธิษฐานไม่. เพราะฉะนั้น ในบทวา
อปลานัติ ปาลิ., ๒. ข. ปัจจ., ๑๑/๒๕๙.