ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค(๑) - ปฐมมัญญาปาสากกาแปล ภาค ๑ - หน้าที่ 173
อันนี้ ภิกษุผู้อาจปราชิกนั้น (ละภิกษุภาวะ) เป็นคณากัล หรือ เป็นอุบาสก เป็นอารามิกะ หรือเป็นสามเณร ยอมเป็นผู้ควร เพื่อยัง ทางสวรรค์ให้สำเร็จ ด้วยคุณธรรมทั้งหลาย มี ทาน สาระ มี ศีล และ สังวรเป็นต้น หรือยิ่งพระนิพพานให้สำเร็จ ด้วยคุณธรรมทั้งหลาย มีมานะและวิริยะเป็นต้น เพราะเหตุนี้ ความเป็นคุฏฑาสะเป็นต้นของ
เธอ จึงชื่อว่า เป็นความบริสุทธิ์. เพราะฉะนั้น พระผู้พระภาคเจ้า จึงตรัสเรียกเธอว่า "ผู้งดความบริสุทธิ์" เพราะเพ่งถึงความบริสุทธิ์ นั้น. ก็ด้วยเหตุนี้นั่นแล ในบางชนะแห่งว่า วิจิตราภูโณ"
นั่น ท่านพระอุบาลีเถระจึงกล่าวว่าคำเป็นต้นว่า " ประสงค์จะเป็นคุฏฑัส" สองบวกว่า เอวัง วาทยุ แปลว่า พิงกล่าวอย่างนี้ ถามว่า " พิงกล่าวอย่างไร?" แล้วว่า " พิงกล่าวว่า น่าท่าน! ข้าพเจ้าไม่รู้ อย่างนั้น ได้กล่าวว่ารู้ไม่เห็นอย่างนั้น ได้กล่าวว่าหน้. ส่วนนในบท
ภาชนะ ท่านพระอุบาลีเถระจึงมีอยู่กวว่า เอวัง วาทยุ นี้จึงเลย
ได้กล่าวคำเป็นต้นว่า " ข้าพเจ้าไม่รู้ธรรมเหล่านี้" ดังนี้ เพื่อแสดง
อาการที่ภิกษุผู้อาจเป็นเหตุให้ท่านเริ่มกล่าวว่า " ยอมกล่าวว่า " แม่ท่าน! ข้าพเจ้าไม่รู้อย่งั้น ๆ ได้กล่าวว่ารู้ ไม่เห็นอย่างนั้น ได้กล่าวว่าหน้." ข้อว่า ตูจิ มูลา วิสัง มีคำอธิบายว่า " ข้าพเจ้าได้พูด คือตำนกล่าวพล่อย ๆ โดยเว้นจากประโยชน์แห่งคำพูด เป็นเท็จปล่า ๆ โดย
ความประสงค์จะลง." ส่วนในบทว่ากระนั้นแห่งนั้น ท่านพระอุบาลีกล่าวคำเป็นต้นว่า " ข้าพเจ้าพูดพล่อย ๆ" ดังนี้ ก็เพื่อแสดงเพียง
เนื้อความ ด้วยบาปและเพียรชนะอย่างอื่น.
สองบอกว่า ปุริเม สุภทยา ความว่า เทียบบุคคลผู้อ่อง