ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค- ปฐมมณีปาตาภาค ๑ หน้า ๑๙๙
เป็นพระอรหันต์ในที่สุดแห่งอาทิตย์ปริยายสูตร เป็นพระมหาอรหันต์หนึ่ง." ก็เพราะท่านองค์นี้ ประกอบด้วยอัตภาพเหมือนพรหม สมบูรณ์ด้วยลักษณะเต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ทุกอย่าง; ฉะนั้น ท่านจึงถึงความนับว่า " ลักษณะ" ส่วนพระมหาโมคคัลลาเถระเป็นพระอรหันต์ ๒ ได้บรรจุเป็นพระอรหันต์ ในวันที่ ๗ แต่วันที่ท่านบวชแล้ว
สองบ้างว่า ลิตต ปฏาวุกะสิ ความว่า พระมหาโมคคัลลาเถระได้ทำการบวชน้อย ๆ ให้ปารกิจ. มีคำอธิบายว่า "ประกาศ คือแสดง."
ถามว่า" ก็พระเถระเห็นอะไร จึงได้ทำการบวชให้ปรากฎ ?"
แก้ว่า "พระเถระเห็นสัตว์ผู้ก่ออยู่ในเปิดโลกหนหนึ่ง มีแต่ร่างกระดูก ซึ่งมาแล้วในบาปล่างหน้า." ก็เลย การเห็นสัตว์ตัวนั้น เห็นได้ด้วยทิพยญาณ ไม่ใช่เห็นด้วยญาณประสาท. จริงอยู่ อัตภาพเหล่านั้นหาได้มาสูลองแห่งญาณประสาทไม่.
ถามว่า" ก็พระเถระเห็นอัตภาพมีรูปลักษณะนั้นแล้ว เพราะเหตุไร จึงได้ทำการบวชให้ปรากฏ ในเมื่อต้องทำความกรุณาเล่า ?"
แก้ว่า "เพราะท่านอนุสรณ์ถึงสม่ำเสมิตของตน และพระญาณของพระพุทธเจ้า. แท้จริง พระเถระเป็นเปรตคนั้นแล้ว ได้อนุสรณ์ถึงสมบัติตนว่า" อัตภาพนี้เป็นนั่น อนุบุคคลผู้ชื่อว่าไม่เห็น ลังจะพึงได้, เราพ้นแล้วจากอัตภาพเช่นนั้น, เป็นลักษณะของเราหนอ ! เราได้พ้นแล้วหนอ ! และใครจะถึงสมบัติเหล่านั้นว่า ญาณสมบัติของพระผู้พระกดเจ้า ผู้ทรงแสดงว่า " ถูก่อน กิณฑุทั้งหลาย ! กรรมวิบาก เป็นอัตวิบาย อนุบุคคลไม่พึงคิด'