ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค(ค) - ปฐมสัมผัสสำหรับกาย ภาค - หน้า 34
ยังมีความกระวนกระวาย ยังหยาบ เมื่อกายและจิตซึ่งเป็นของหยาบ
ยังไม่สงบแม้สมหายใจเข้าและลมหายใจออก ก็เป็นของหยาบ คือเป็นไป
เกินกำลัง ญาติไม่พอหายใจ ต้องยืนหายใจเข้าไปข้าง หายใจออกข้างทาง
ปาก ต่อมือต่อ กายก็ดี จิตก็ดี เป็นของอันเธอกำหนดแล้ว, เมื่อ
นั่น กายและจิตนั่นจึงเป็นของสงบระงับ ครับเมื่อกายและจิตนั่นสงบ
แล้ว ลมหายใจเข้าและหายใจออกอ่อนเป็นไปตามละเอียด คือเป็นสภาพ
ถึงการที่จะต้องค้นหา " มีอยู่หรือไม่หนอ " เปรียบเหมือนลมหาย
ใจเข้าและหายใจออก ของบูรพผู้ลงจากภูเขา หรือผู้ปลดของหน้ากล
จากศีรษะแล้วนิ่งอยู่ ย่อมเป็นของหยาบ ญูมไม่พอหายใจ ต้องยืน
หายใจเข้าและหายใจออกข้าง หายใจออกข้างทางปาก, ต่อเมื่อใด เขาบรรเทา
ความกระวนกระวายนันเสีย อาบและดื่มน้ำแล้ว เอาผ้าปิดภูมิที่
หน่ออกนอทที่ร่มไม่เย็น ฯลฯ, เมื่อฉัน ลมหายใจเข้าและหายใจ
ออกนั่นของเขา จึงเป็นของละเอียด คือถึงการที่จะต้องค้นหา
" มีอยู่หรือไม่หนอ " แม้นนั้น. ในกาลก่อน คือในเวลากฐฑูมิ
ยังไม่ได้กำหนดกฐฑรรษา กายและจิต ฯ ฯ คือถึงอาการที่จะต้องค้น
หา " มีอยู่หรือไม่หนอ " ฉัน่นั้นเหมือนกัน. ข้อฉันเป็นเพราะเหตุ
ไร ? เพราะความจริงเป็นอย่างนั้น ในกาลก่อน คือในเวลาที่เธอยัง
มิได้กำหนดกฐฑรรษา การกำนี้ การประมวลมา การมลิการ และ
การพิจารณาว่า " เราจะระงับกายสังขารส่วนหยาง ฯ " ดังนี้ หามี
แก่เธอนั้นไม่. แต่ในเวลาที่เธอกำหนดแล้ว จึงมีได้. เพราะเหตุนัน
๑. คำพูว่า โอพริกา ให้แก่เป็น โอพริกา เป็นบทธคุณของกายและจิต วิสุทธิธรรม
ภาค ๒/๒ ก็เป็นอย่างนี้.