ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค(ฎ) - ปฐมสมันตปาสาทิกา ม. ๓ - หน้า ๔๘
ลมออกไปภายนอก หาย (หัวใจ) เป็นท่ามกลาง นาสิก (จมูก)
เป็นที่สุด ปลายจมิก เป็นเบื้องต้น แห่งลมเข้าไปภายในหาย เป็น
ท่ามกลาง นาสิก เป็นที่สุด คืเมื่อพระโยคาวารนั้น ไปตามเบื้องต้น
ท่ามกลาง และที่สุด (แห่งลมอัสสาละและปลาสสละ) นั้น จิตเกิดความ
ฟุ้งซ่าน ยอมเป็นไปเพื่อความระวาย และเพื่อความหวังไหว.
เหมือนอย่างที่ท่านพระธรรมเสนาบดีสรุตรกล่าวไว้ว่า "เมื่อพระ
โยคาวารส่งสติไปตามเบื้องต้น ท่ามกลางและที่สุดดูแหละมาหายใจเข้า กาย
ก็ดี จิตดี จ่อมมีความระลึกระสาย หวั่นไหว และคื้นนรน เพราะจิตถึงความ
ฟุ้งซ่านไปภายใน เมื่อพระโยคาวาส่งสติไปตามเบื้องต้น ท่ามกลาง
และที่สุดแห่งมหายใจออก กายดี จิตดี ย่อมมีความระลึกระสาย
หวั่นไหว และคื้นนรน เพราะจิตถึงความฟุ้งซ่านไปภายนอก" เพราะ-
ฉะนั้น พระโยคาวารเมื่อมันก็ริกาโบก โดยการมองดูๆ ไม่พึงมองสักด้วย
อำนาจแห่งเบื้องต้น ท่ามกลางและที่สุด อันนี้แหละ พึ่งมโนสิกา ด้วย
อำนาจการถูกต้อง และด้วยอำนาจการหยุดไว้ เพราะว่าไม่มีมโนสิกา
เป็นแผนกหนึ่ง ด้วยอำนาจแห่งการถูกต้องและหยุดไว้ เช่นนี้กับด้วย
อำนาจแห่งการนับและการตามผูก. แต่พระโยคาวาร เมื่อบ่อยู่ในฐานที่
มโนถูกต้องแล้ว ๆ นั้นแหละ ชื่อว่ามนสิกา ด้วยการนับและการถูกต้อง.
พระโยคาวารเมื่อหยุดพักจากนับในฐานที่มโนถูกต้องแล้ว ๆ นั้นนั่นแหละ
ใช้สติตามผลกรรมอัสสาสะและปลาสสละนั้น และตั้งจิตไว้ด้วยอำนาจอัปปนา
ท่านเรียกว่า "มนสิการัตตามผูก การถูกต้อง และการหยุดไว้."
ใจความนี้นึ้งพึงทราบด้วยข้ออุปมเหมือนคนอ่อนโยนและคนนิยมประตู ที่
อ. ข. ปริ ๑๑๒๔๕