ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ปฐมม์ปนปาสคาทกแปลงภาค ๑ หน้า ที่ 110
[ ว่าด้วยการกัดง่วงของภิกษุ ]
กี้พลทรามวินิฉัย แม้ในวงเป็นดัง อนุญโฒมแก่คุณพราง นั้นแหละ ดังต่อไปนี้:- กิณฐจใด กัดง่วงไว้ก่อน ด้วยคิดว่า "สัตว์ ทั้งหลายกัดคิดในบวี้ติ" เมื่่อบวชพอฟันไปจากมือ พึงทราบว่าเป็น ปาราชิก อนันติธรรม ฤๅลถังจัง และปจิตติยั แก่กินรููปันแน่นอน ด้วยอำนาจสั้ตย์ที่ดี ( บ่วง ).
ในบ่วงที่กิณงทำจะจงไป มีวิจิณฉังดังนี้:- บ่วงที่กิณจุดะแจง สัตว์ตัวใดไว้ เพราะสัตว์เหล่าสิโถ่จากสัตว์ตัวนั้นมาดิด ไม่เป็นอาบัติ. แม้เมื่อกิณอุฆหนายบ่วงไป ด้วยข้อมูลหรือให้ปลาดำ ข้อผูกพันทาง กรร ม ย่อมมีแกกิณคู่เป็นดงเดิมเช่นกัน. ถ้ากิณคู่ได้บ่วงไป ดักบ่วง เคลื่อนที่ได้ไว้ หรือหินพวกสัตว์ดินไปข้าง ๆ จึงทำรั้งกันไว้ ต้นสัตว์ ให้เข้าไปครอบหน้า หรือคัดบ่วงไว้ให้แข็งแรง หรือผูกเชือกบ่วงไว้ให้ มันขึ้น หรือดอกหลักไว้ให้นั่นคง ; เธอทั้ง ๒ รูป ไม่พัน ถ้เมื่อเกิด ความเดือดร้อนขึ้น เธอจงคบง่วงให้หลุดออกแล้ว ไปเสี่ย. คนเหล่อตุน พบเห็นบ่วงที่รอกออกแล้วนั้น เอาด้วยไว้, สัตว์ทั้งหลายที่คิด ( บ่วง ) แล้ว ๆ ตายไป ; กิณคู่ผู้เป็นต้นเดิม ไม่พันไปได้. แต่คำบ่วง อัน เธอคู่เป็นต้นเดิมนั้นไม่ได้ไว้เอง, แต่วางไว้ในที่ตนรับมา ย่อมพัน. เธอคัดไม้คู่บ่วงซึ่งเกิดอยู่ในสถานที่นั้นเสียว ย่อมพัน. แต่แม้เมื่อเธอ เก็บรักษาไม้คันบ่วงที่คนทำเองไว้ ย่อมไม่พัน. จริงอยู่ ถ้ากิณรคู่อื่น ก็เอาไม้บันบ่วงนั้น ไปได้บ่วงไว้ก็ไ่ม่อะไร, เมื่อสัตว์ทั้งหลายดาไป เพราะมีการกัดง่วงนั้นเป็นปัจจัย กิณคู่เธอเป็นต้นเดิม ย่อมไม่พัน, ถ้าเธอ