ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค (ค) - ปฐมสมุนไพรสำหรับเท่า ภาค ๓ - หน้าที่ ๕๙
"พระโยค์ผู้อยู่ในธรรมชาติ เมื่อดั่งใจไว้ในนิมิต เจริญ ลมหายใจเข้า และหายใจออก ซึ่งมีอาการต่าง ๆ อยู่เสมอ ย่อมผูกจงดวงตนไว้."
จำดมตั้งแต่มิติปรากฏ โดยนัยดังกล่าวแล้วนั้น นิ้วริมนี้หลายย่อม เป็นอันพระโยค์นั้นน้อมได้โดยแท้ ก็เลาะทั้งหลาย สงบนิ่ง สติเข้าไปตั้งมั่น ที่เดียว จิตตั้งมั่นเช่นกัน.
[ จิตต่อจากนั้นเป็นสมาธิองค์ ๒ ]
จริงอยู่ จิตนี้ ย่อมช่อว่าเป็นธรรมชาติตั้งมั่น ด้วยองค์ ๒ คือ ด้วยการละนิ้วในอุปจารภูมิ หรือด้วยความปรากฏแห่งองค์ในปฏิพลาภูมิ บรรดาภูมิ ๒ อย่างนั้น ที่ชื่อว่า อุปจารภูมิ ได้แก่ อุปจารสมาธิ ที่ชื่อว่า ปฏิภาคภูมิ ได้แก่ อัปปนาสมาธิ.
ถามว่า "สมาธิทั้งสองนั้น มีการทำต่างกันอย่างไร ?"
แก้ว่า "อุปจารสมาธิ แล่นไปในทุกวิถีแล้ว ก็ยังลงสู่วงค์.
อัปปนาสมาธิ เมื่อพระโยคิ้งแนบสนิทตลอดทั้งวัน แล่นไปในทุกวิถี แม้ตลอดทั้งวัน ก็ไม่หยั่งลงสู่วงค์ บรรดาสมาธิ ๒ อย่าง หลานนี้ จิตย่อมเป็นธรรมชาติตั้งมั่นด้วยอุปจารสมาธิ เพราะนิมิตปรากฏ." ภายหลัง ภิกษู่นี้ไม่พึงสัมฤทธิ์ในมิตินี้โดยสิ ทั้งไม่พึงพิจารณาโดย ลักษณะ. ก็ อีกอย่างหนึ่งแล เธออย่าประมาท ควรรักษามิติโว้ย จุดพระเหลืองกษัตริย์ ทรงรักษาอารมณ์แห่งพระเจ้าจักรพรรดิ และ จุดชาวนารักษาเรางแห่งข่าวสารและข่าวเนืองนั่น. จริงอยู่ นิมิตที่ รักษาไว้ได้ ย่อมจะอำนวยผลแก่เธอ.