ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค(ค) - ปฐมสัมผัสสาธกาเปล ภาษา ๓ - หน้าที่ 23
เต็มโตแล้ว พึงพรากออกจากแม่โคม ปลักใหญ่ ไว้ส่วนหนึ่ง แล้วเอาเชือกผูกไว้ที่หลักนั้น, ครว่านั้นลูกโคนันของเขาดิ้นรนไปทางไน้นทางนี้ ไม่อาจหนีไปได้ พึงยืนพิงหรือสนองกันนั้นแดด ซื้อแม่ฉันใด; ภิกุเมืู่นี้ ก็สนองนั้นเหมือนกัน ประสงค์จะฝึกฝนจิตที่ถูกโทษประทุษร้าย ซึ่งเจริญด้วยการมีธรรมแสวงอามรณ์เป็นต้นนานแล้ว พึงพรากออกจากอารมณ์มีรูปเป็นต้น แล้วนำไปสู่ป่า หรือโคนไม้ หรือเรือนว่างเปล่า แล้วพึงเชือกคอสติผูกไว้ที่หลัก คืออุศาสะและปิสาสะนั้น เมื่อเป็นเช่นนั้น จิตของเธอนั้น แม้จะวกวลวกไปทางโนิน และทางนี้ตาม เมื่อไม่ได้รับอารมณ์ที่เคยชมมาในกาลก่อน ไม่สามารถจะดัดเชือกคอสติหนีไปได้ ย่อมจอด่อแน่นสนิทอารมณ์นั้นแล ด้วยคำนาถอุจระและคิปลนาน เพราะเหตุนี้ พระโพธิณาจารย์ทั่วหลายจึงกล่าวว่า
"นรชน เมื่อจะฝึกลูกโค พึงถิตใจไว้ที่หลัก ฉันใด ภิกุในศาสนานี้ พึงเอาสติผูกจิตของตนไว้ที่อารมณ์ให้มั่น ฉันนั้น."
เสนานั้น ย่อมเป็นสถานที่เหมาะแก่การเจริญอานาปนาสติ- สมาธิอัน ด้วยประกาศะนี้, เพราะเหตุนี้ ข้าเจ้าจึงกล่าวว่า "คำนี้แสดงการที่ภิกุนี้ เลือกสถานนะที่เหมาะแก่การเจริญอานาปนาสติสมาธิ" อีกอย่างหนึ่ง เพราะอานาปนสติโสรฐานนี้เป็นยอดในประเภทแห่งกรรมฐาน เป็นที่ฐานแห่งกรรมฐานพิเศษ และเป็นสุขวิหารธรรมในปัจจุบันของพระสัพพัญญูพุทธเจ้า พระปัจเจก- พุทธเจ้า และพระสาวก อันพระ โยคาวิจารไม่ละชาบ้านที่อืออึ้งด้วยเสียง