ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ปฐมสมันตปาสาทิกา ภาค ๓ - หน้า ๒๕
ทั่งหลาย ถึงกล่าวว่า
" ขึ้นชื่อว่า พยัคฆ์ ย่อมแอบจับหนุมงกฎ เป็นภัคยา" แม้มันใจพูทธารูผู้ประกอบความเพียร
นำพิญวาสถานนี้ ก็เหมือนกัน เข้าไปสู่ป่าแล้ว ย่อมมีไว้ได้ขึ้นผลอันอุดม."
เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่ออจจะทรงแสดงอารุณ- เสนานะ อันเป็นภูมิวรณ์อันก็สำหรับประกอบชวนปัญญา เพื่อความเจริญก้าวหน้า แก่พระโภคาวารนั้น จึงตรัสพระพุทธมนต์ว่าว่า
" อธุปญโฏ วา" ดังนี้.
บรรดาหล่านั้น บอกว่า อธุปญโฏ วา ว่า ไปสู่ป่า
อันสะดวกแก่ความสังหารในแห่งหนึ่ง ในบรรดาโป่งมียักษะที่กล่าว ไว้อย่างนี้ว่า " ที่ขอว่า ไปแก้สถานที่ภายนอกจากเสาเขื่อนออกไป
นั่นทั้งหมด ชื่อว่า ป่า" และว่า เสนานะที่สูงไกลประมาณ ๕๐๐ ชั่วโม ชื่อว่า เสนานะป่า."
บอกว่า ภูรมู°F๏ วา ควว่า ไปสู่ที่ใกล้ต้นไม้.
บอกว่า สุขอาการโต ว่า ควว่า ไปสู่โอกาสส่ง เป็น ง ว่างเปล่า แต่ในอธิกานี้ แม็กจะเว้นป่าและโคนตันไมเสีย ไปยง เสนานะ ๓ อย่างที่เหลือ ก็ควรเรียกได้ว่า "ไปสู่เรือนวังปลา." พระผู้พระภาคเจ้า ครับทรงอิสรถานะอันสมควรแก่เจริญ
อานาปนัสสติ ซึ่งเหมาะแก่ดูดุ่ง ๓ และเหมาะแก่ดูดุ ๓ และเจริญแก่ ภูกุึ้น อย่างนั้นแล้ว เมื่ออจจะทรงอิริยาบถสงบ ซึ่งเป็นฝ่ายแห่ง