การฝึกฝนความเป็นผู้รู้จักประมาณในโภชนะและการตื่นอยู่ SB 303 แม่บทการฝึกอบรมในพระพุทธศาสนา หน้า 48
หน้าที่ 48 / 252

สรุปเนื้อหา

บทนำเรื่องการฝึกธรรมของพระภิกษุมีความสำคัญในการพัฒนาจิตใจและรู้จักประมาณในโภชนะ เพื่อไม่ให้หลงติดอยู่ในอบายทั้ง 4 ซึ่งมีความก้าวหน้าทางจิตใจขึ้นอยู่กับการตื่นรู้และการจัดสรรเวลาสำหรับการทำสมาธิ เทคนิคในการแบ่งเวลาเพื่อการบำเพ็ญภาวนาได้รับการแนะนำจากพระพุทธองค์ โดยมีให้แบ่งเป็น 4 ช่วง ได้แก่ ช่วงกลางวัน ช่วงปฐมยามแห่งราตรี ช่วงมัชฌิมยามแห่งราตรี และช่วงปัจฉิมยามแห่งราตรี การฝึกฝนจิตใจให้บริสุทธิ์ด้วยอิริยาบถเดินและนั่งสามารถช่วยลดอุปสรรคด้านความดีได้.

หัวข้อประเด็น

-การรู้จักประมาณในโภชนะ
-การตื่นอยู่ในสมาธิ
-การแบ่งเวลาทำสมาธิ
-อบายทั้ง 4
-อาวรณียธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

“ความเป็นผู้รู้จักประมาณ ความไม่หลงติดอยู่ในโภชนะ เป็นความดี ด้วยว่าบุคคล ไม่รู้จักประมาณ ย่อมจมลงในอบายทั้ง 4 บุคคล ผู้รู้จัก ประมาณแล ย่อมไม่จมลงในอบาย4” 2.3.4 ขั้นตอนที่ 4 “ประกอบเนืองๆ ซึ่งความเป็นผู้ตื่นอยู่” เมื่อพระภิกษุสามารถฝึกฝนอบรมตนเองจนเป็นผู้รู้จักประมาณในโภชนะดีแล้ว พระพุทธองค์จะทรง แนะนำให้ยิ่งขึ้นไปว่า ดูก่อนภิกษุ มาเถิด เธอจงเป็นผู้ประกอบเนืองๆ ซึ่งความเป็นผู้ตื่นอยู่ คือจงชำระจิตให้บริสุทธิ์ จากอาวรณียธรรม ด้วยการเดินจงกรมและการนั่งตลอดวัน จงชำระจิตให้บริสุทธิ์จากอาวรณียธรรม ด้วย การเดินจงกรมและการนั่งตลอดปฐมยามแห่งราตรี จึงเอาเท้าซ้อนเท้า มีสติรู้สึกตัว ทำความสำคัญว่าจะ ลุกขึ้น ไว้ในใจ แล้วสำเร็จสีหไสยาโดยข้างเบื้องขวาตลอดมัชฌิมยามแห่งราตรี จงลุกขึ้นชำระจิตให้บริสุทธิ์ จากอาวรณียธรรม ด้วยการเดินจงกรมและการนั่ง ตลอดปัจฉิมยามแห่งราตรีเถิด” คำว่า “ประกอบเนืองๆ ซึ่งความเป็นผู้ตื่นอยู่” หมายถึง การหมั่นประกอบความตื่น ไม่เห็นแก่นอน กล่าวคือ ให้พระภิกษุรู้จักจัดสรรเวลาของตัวเอง เพื่อประโยชน์แก่การทำสมาธิเจริญภาวนา ไม่ยอมปล่อย เวลาให้สูญเปล่า ตกไปในอำนาจของกระแสกิเลส มีความง่วงเหงาซึมเซา เป็นต้น โดยตรัสแนะนำการแบ่งเวลา เพื่อการทำสมาธิเจริญภาวนาไว้ 4 ช่วง คือ 1. ช่วงกลางวัน (06.00-18.00 น.) บำเพ็ญเพียรชำระจิตให้สะอาด ด้วยอิริยาบถเดิน คือ เดิน จงกรม และอิริยาบถนั่งทำสมาธิภาวนา 2. ช่วงปฐมยามแห่งราตรี (18.00-22.00 น.) บำเพ็ญเพียรชำระจิตให้สะอาด ด้วยอิริยาบถเดิน คือ เดินจงกรม และอิริยาบถนั่งทำสมาธิภาวนาเช่นกัน 3. ช่วงมัชฌิมยามแห่งราตรี (22.00-02.00 น.) นอนพักด้วยสีหไสยา คือการนอนอย่างราชสีห์ โดยนอนตะแคงขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมกันเล็กน้อย มีสติสัมปชัญญะ พร้อมจะลุกขึ้นบำเพ็ญภาวนาต่อไป 4. ช่วงปัจฉิมยามแห่งราตรี (02.00-06.00 น.) บำเพ็ญเพียรชำระจิตให้สะอาด ด้วยอิริยาบถเดิน คือ เดินจงกรม และอิริยาบถนั่งทำสมาธิภาวนาเช่นเดิม สุกชาดก, อรรถกถา ขุททกนิกาย ติกนิบาตชาดก, มก. เล่ม 58 ข้อ 366 หน้า 40 อบาย 4 หมายถึง ภูมิกำเนิดที่ปราศจากความเจริญ มี 4 อย่าง คือ นรก ดิรัจฉาน เปรต และอสุรกาย *อาวรณียธรรม หมายถึง ธรรมเครื่องขวางกั้นความดี บทที่ 2 คณกโมคคัลลานสูตร DOU 37
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More