ข้อความต้นฉบับในหน้า
เจริญวิปัสสนาก้าวลงสู่อริยภูมิได้ก็ตาม ท่านก็ยังได้ชื่อว่า เป็นผู้หมั่นประคับประคองสติสัมปชัญญะ
ข่มกิเลส ของตนเอง
ท่านทำเช่นนี้เป็นเวลาถึง 19 พรรษา จนชาวบ้านทั้งหลายทั้งที่กำลังไถ กำลังหว่านกำลังนวดทำงาน
กันอยู่ เห็นพระเถระผู้เดินมามีอาการอย่างนั้น ก็คุยกันว่า พระเถระรูปนี้เดินกลับไปกลับมา คงจะหลงทาง
หรือไม่ก็คงลืมอะไร แต่ตัวท่านเองก็ไม่ได้ใส่ใจในคำพูดเหล่านั้น ตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรม ประคับประคอง
สติสัมปชัญญะของตนอยู่ด้วยกรรมฐาน จนได้บรรลุธรรมหมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ ในพรรษาที่ 20 นั้นเอง
2.3.6 ขั้นตอนที่ 6 “เสพเสนาสนะอันสงัด”
เมื่อพระภิกษุสามารถฝึกฝนอบรมตนเองจนเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะได้ดีแล้ว พระพุทธองค์จะทรง
แนะนำให้ยิ่งขึ้นไปว่า
เป็นต้น
“ดูก่อนภิกษุ มาเถิด เธอจงเสพเสนาสนะอันสงัด คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา
ซอกเขา ถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง และลอมฟางเถิด ภิกษุนั้นจึงเสพ
เสนาสนะอันสงัด คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง
และลอมฟาง”
คำว่า “การเสพเสนาสนะอันสงัด” หมายถึง การอยู่อาศัยในสถานที่อันสงบ เช่น ป่า ถ้ำ
ภูเขา
ข้อปฏิบัติซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายสำหรับพระภิกษุผู้ปรารถนาจะทำพระนิพพานให้แจ้งนี้ คือ การ
แสวงหา และพักอยู่ในสถานที่อันเงียบสงบ ห่างไกลจากผู้คน เพราะไม่ต้องวุ่นวายใจ มีเวลาในการฝึกฝน
อบรมตัวเองมากขึ้น ดังนั้นความมุ่งหมายของการเสพเสนาสนะอันสงัด จึงเป็นเรื่องของการมีเวลาเจริญสมาธิ
ภาวนาได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลให้การทำสมาธิมีความเจริญรุดหน้าได้อย่างรวดเร็ว สามารถชำระใจให้
สะอาดบริสุทธิ์จากสิ่งที่เป็นมลทินของใจ คือกิเลสได้มากขึ้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมทั้งเหล่าพระอรหันตสาวกต่างสรรเสริญการเสพเสนาสนะอันสงัด
เพราะเป็นการอยู่อาศัยที่ก่อให้เกิดความสงบสุข มีความเรียบง่ายตามวิถีชีวิตของนักบวช และเป็นแบบ
อย่างการดำเนินชีวิตที่ดีงามให้แก่อนุชนรุ่นหลังอีกด้วย เหมือนเรื่องของพระมหากัสสปเถระ ผู้เป็นเอตทัคคะ
คือ เป็นภิกษุผู้เลิศในด้านการถือธุดงควัตร แม้ร่างกายจะชราภาพแล้ว พระเถระก็ยังยินดี ยังสรรเสริญการ
อยู่ในเสนาสนะอันสงัด มีป่าเป็นต้น มีเรื่องย่อดังนี้
มโนรถบูรณี, อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ทุกนิบาต, มก. เล่ม 33 ข้อ 274 หน้า 352
"ธุดงควัตร หมายถึง ข้อปฏิบัติของผู้สมาทาน เพื่อใช้เป็นเครื่องขัดเกลากิเลส
บทที่ 2 คณกโมคคัลลานสูตร DOU 41