การฝึกอบรมด้วยปัจจัย 4 เพื่อละอาสวะ SB 303 แม่บทการฝึกอบรมในพระพุทธศาสนา หน้า 138
หน้าที่ 138 / 252

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับการพิจารณาเสพปัจจัย 4 อย่างมีสติ เพื่อช่วยลดปัญหาทางจิตใจและสร้างสมาธิให้มั่นคง พระภิกษุต้องใช้ปัจจัย 4 อย่างเหมาะสมไม่ให้ติดอารมณ์กับปัจจัยเพื่อที่จะทำให้สามารถฝึกปฏิบัติธรรมได้ดีขึ้น การละอาสวะเกิดจากความเป็นอยู่ที่ไม่ติดใจกับสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ ทำให้จิตใจมีความสงบและสามารถตั้งมั่นในสมาธิได้ง่ายขึ้น ปัจจัย 4 ที่มีอยู่ต้องใช้เพื่อรับการปกป้องแทนที่จะทิ้งทวนต่อการมีหรือไม่มี อย่างถูกต้อง เพื่อเจริญเติบโตในด้านธรรมะและคุณธรรม

หัวข้อประเด็น

-การใช้ปัจจัย 4 อย่างมีสติ
-การลดอาสวะและกิเลส
-การฝึกสมาธิและพัฒนาจิตใจ
-บทบาทของพระภิกษุในชีวิตประจำวัน
-การพิจารณาเทคนิคการใช้งานปัจจัย 4

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พิจารณาโดยแยบคายแล้ว เสพ “บริขาร คือยา” อันเป็นปัจจัยแก่คนไข้ เพียงเพื่อกำจัดเวทนาที่เกิดแต่อาพาธต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่อความเป็นผู้ ไม่มีอาพาธเบียดเบียนเป็นอย่างยิ่ง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อาสวะ และความเร่าร้อน อันกระทำความคับแค้น เหล่าใดพึงบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุนั้น ผู้ไม่พิจารณาเสพปัจจัยอันใดอันหนึ่งอาสวะ และความเร่าร้อนอันกระทำความคับแค้นเหล่านั้น ย่อมไม่มีแก่ภิกษุผู้ พิจารณาเสพอยู่อย่างนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อาสวะเหล่านี้เราตถาคตกล่าวว่า จะพึงละได้เพราะ การพิจารณาเสพ” ดังนั้น วิธีการนำปัจจัย 4 มาใช้ฝึกอบรมเพื่อขจัดกิเลสอาสวะในใจ สามารถทำได้โดยการบริโภค ใช้สอยปัจจัย 4 ให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ เช่น พระภิกษุต้องทราบว่า จีวรที่มีอยู่ ไม่ใช่มีไว้เพื่อสะสม หรือห่ม เพื่อให้เกิดความสวยงาม แต่ห่มเพื่อป้องกันอันตรายจากความหนาว ความร้อน หรือปกปิดร่างกาย และอวัยวะ ที่ควรละอาย ส่วนบิณฑบาต ที่อยู่อาศัย หรือยารักษาโรคก็ในทำนองเดียวกัน หากว่าสามารถใช้สอยได้ตรงตาม วัตถุประสงค์แล้ว ย่อมจะทำให้พระภิกษุได้บริโภคปัจจัย 4 ด้วยความระมัดระวัง สติ สัมปชัญญะก็จะเจริญ ขึ้นมา ซึ่งการฝึกอย่างนี้ ก่อให้เกิดผลดีอย่างน้อย 2 ประการ คือ 1. ไม่ต้องเสียเวลาบริหารปัจจัย 4 มากเกินไป ทำให้มีโอกาสปฏิบัติธรรมได้มากขึ้น 2. ใจไม่ยึดติดกับปัจจัย 4 หรือสิ่งนอกตัวมากไป ใจจึงกลับเข้ามาตั้งมั่นภายในตัวได้ง่ายขึ้น การที่พระภิกษุไม่ติดอกติดใจทั้งในปริมาณ หรือคุณภาพของปัจจัย 4 มากจนเกินไปนัก จะทำให้ใจ ของท่านไม่ไปติดพันกับสิ่งที่ไม่มีสาระแก่นสารนอกตัวไม่รู้สึกดีใจเมื่อได้รับหรือได้ใช้ปัจจัย 4 และไม่รู้สึกเสียใจ ที่ไม่มีหรือไม่ได้ใช้ปัจจัย 4 ใจก็คลายจากความห่วงหาอาลัย ไม่ติดอยู่ในอารมณ์ต่างๆ ใจจะกลับเข้ามาอยู่ ภายในตัว หลังจากนั้น หากพระภิกษุได้ฝึกพิจารณาใช้สอยปัจจัย 4 ตามวัตถุประสงค์อย่างนี้ทุกวันๆ ย่อม จะเกิดเป็นนิสัยคุ้นกับการนำใจกลับมาตั้งไว้ภายในตัว ควบคู่กับการฝึกปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนา ใจก็ จะตั้งมั่น เป็นสมาธิได้ง่าย และสามารถหยุดใจให้นิ่งเข้าสู่ศูนย์กลางกาย คุณธรรมภายในก็จะก้าวหน้าเรื่อยไป ส่งผลให้ท่านสามารถละกิเลสอาสวะได้ในที่สุด ดังเช่นที่พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ได้เคยแสดงพระ ธรรมเทศนาไว้เกี่ยวกับเรื่องการปล่อยอารมณ์ว่า 'กิเลสที่หมักหมม หรือดองอยู่ในสันดาน ไหลซึมซ่านไปย้อมจิตเมื่อประสบอารมณ์ต่างๆ "สัพพาสวสังวรสูตร, มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์, มก. เล่ม 17 ข้อ 14 หน้า 143 บทที่ 6 ขั้ น ต อ น ที่ 4 มัตตัญญู DOU 127
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More