การควบคุมใจและโภชนาการในพระพุทธศาสนา SB 303 แม่บทการฝึกอบรมในพระพุทธศาสนา หน้า 55
หน้าที่ 55 / 252

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงวิธีการควบคุมอารมณ์ของใจไม่ให้ไปติดอยู่กับกามคุณและการบริโภคอาหารอย่างมีประมาณ โดยยกตัวอย่างจากคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสารีบุตรในการเลือกสิ่งที่จะบริโภค เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีและเหมาะสมสำหรับการฝึกสมาธิภาวนา การดำเนินการตามหลักการนี้จะเกื้อกูลให้การฝึกสมาธิทำได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติสามารถพัฒนาสมาธิได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หัวข้อประเด็น

-การควบคุมใจ
-การเลือกบริโภคอาหาร
-การฝึกสมาธิ
-คุณค่าของโภชนะ
-คำสอนในพระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

และชื่อว่าเป็นเครื่องผูกมัดสัตวโลกไว้” เพราะกามคุณ คือ รูป เสียง กลิ่น รส และ สัมผัสทางกายที่น่า พอใจ จะคอยดึงดูดใจให้ซัดส่าย ไม่หยุดนิ่ง ไหลออกไปติดอยู่กับกามคุณนั้นๆ การคุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย หรือที่เรียกว่า อินทรียสังวร จึงเป็นขั้นตอนการฝึกที่จะช่วย “ประคับประคองใจ” ไม่ให้ไหลออกไปเกาะกับสิ่งล่อใจนอกตัว มี รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เป็นต้น โดย พยายามควบคุมอินทรีย์ของตนเองไว้ ด้วยการรู้จักเลือกที่จะใช้ “ตาไปดูรูป” “หูไปฟังเสียง” “จมูกไปดมกลิ่น” “ลิ้นไปรับรส” “กายไปสัมผัส” และ “ใจไปคิดถึงอารมณ์” โดยมีหลักว่า ถ้าดู หรือฟัง หรือดื่ม ฯลฯ สิ่งใด แล้วกุศลธรรมเจริญขึ้นก็ให้ดู ฟัง ดม ฯลฯ ได้ แต่ถ้าเป็นเหตุให้อกุศลธรรมเจริญขึ้น ก็ให้ละเว้นเสีย ด้วย วิธีการอย่างนี้ ใจก็จะไม่ไปติดอยู่กับสิ่งนอกตัว เมื่อใจไม่ซัดส่ายไปไหน ก็จะกลับมาตั้งมั่นอยู่ในกายภายใน ซึ่งจะเกื้อกูลให้การฝึกสมาธิทำได้ง่ายยิ่งขึ้น 2.4.3 ขั้นตอนที่ 3 “รู้จักประมาณในโภชนะ” เมื่อควบคุมใจของตนเองไม่ให้ไหลออกไปกับสิ่งนอกตัวได้แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือการเตรียมร่างกาย ให้แข็งแรง มีความพร้อม และเหมาะสมที่จะรองรับการเจริญสมาธิภาวนาให้ก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป การรู้จัก ประมาณในอาหาร จึงมีความสำคัญ เพราะเมื่อบริโภคเข้าไป ก็จะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายโดยตรงทันที เช่น หากบริโภคจนอิ่มเกินไป ก็จะทำให้อึดอัด หรืออาหารไม่ย่อย เกิดความง่วงเหงาหาวนอน เมื่อเจริญสมาธิ ภาวนา ก็จะทำให้หลับง่าย แต่หากบริโภคน้อยเกินไป ก็จะทำให้หิว กระสับกระส่าย ไม่สบายตัว เป็นต้น การรู้จักประมาณในโภชนะจึงมีความสำคัญ ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงคุณของการบริโภคอาหารไว้ดังนี้ “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราฉันอาหารในเวลาก่อนภัตครั้งเดียว เมื่อเราฉัน อาหารในเวลาภัตครั้งเดียว ย่อมรู้สึกคุณ คือ ความเป็นผู้มีอาพาธน้อย มี โรคเบาบาง กายเบา มีกำลัง และอยู่สำราญ” การบริโภคอาหารแต่พอดี จะทำให้มีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง เหมาะสมกับการเจริญสมาธิภาวนา ต่อไป ซึ่งการที่ประมาณได้นั้น ก็เพราะหมั่นฝึกฝนอินทรียสังวรมาก่อนเป็นอย่างดี คือ รู้จักตัดสินใจได้ว่า สิ่งนี้ ควรหรือไม่ควรบริโภคอย่างไร ซึ่งมีหลักการดังที่พระสารีบุตรให้ไว้ว่า “ภิกษุเมื่อบริโภคอาหาร จะเป็นของสดหรือของแห้งก็ตาม ไม่ควรติดใจ (ในรสอาหาร) จนเกินไป ควรเป็นผู้มีท้องพร่อง มีอาหารพอประมาณ มีสติอยู่ เมื่อบริโภคอาหารอีก 4 - 5 คำจะอิ่ม ควรงดอาหารนั้นเสีย แล้วดื่มน้ำตาม จึงเป็นการสมควร เพื่อความอยู่สบายของภิกษุ ภัททาลิสูตร, มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์, มก. เล่ม 20 ข้อ 160 หน้า 321 *สารีปุตตเถรคาถา, ขุททกนิกาย เถรคาถา, มก. เล่ม 53 ข้อ 396 หน้า 229 44 DOU แม่บทการฝึกอบรมในพระพุทธศาสนา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More