ข้อความต้นฉบับในหน้า
คือ
3) การประกอบความเพียร หรือหมายถึงการเจริญสมาธิภาวนา แนวทางในการปฏิบัติโดยทั่วไป
3.1) พระภิกษุต้องไม่เป็นผู้เกียจคร้าน
3.2) พระภิกษุต้องมีความคิดน้อมไปทางที่จะได้ปรารภความเพียร เช่น ไม่ว่าจะทำการงานจน
เหน็ดเหนื่อย เดินทางไกลจนเมื่อยล้า หรือว่าจะหิวกระหายเพียงไหน จะทุกข์ทรมานจากความเจ็บไข้ได้
ป่วยเพียงไร พระภิกษุต้องคิดสอนตนเองให้ได้ ว่าถึงอย่างไรเราก็จะต้องทำความเพียร
3.3) พระภิกษุต้องอยู่ในสถานภาพและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม อย่างน้อยก็ไม่ได้อยู่ในยาม
ที่พระพุทธองค์ตรัสเอาไว้ว่าไม่เหมาะแก่การทำความเพียร คือ
1. สมัยที่พระภิกษุมีอายุมาก เป็นคนแก่ ถูกความชราครอบงำ
2. สมัยที่เจ็บไข้ได้ป่วย มีโรคมาก
3. สมัยที่เศรษฐกิจไม่ดี อาหารบิณฑบาตหาได้ยาก
4. สมัยที่ผู้คนขาดความสามัคคี ทะเลาะเบาะแว้งกัน
5. สมัยที่ภิกษุสงฆ์แตกกัน ทะเลาะกัน ทำให้ผู้คนไม่เลื่อมใส
3.4) พระภิกษุต้องประกอบด้วยคุณสมบัติของผู้มีความเพียร 5 ประการ คือ
1. มีความศรัทธาเชื่อในปัญญาตรัสรู้ธรรมของพระตถาคต
2. มีสุขภาพแข็งแรง ไฟธาตุสำหรับย่อยอาหารสม่ำเสมอพอเหมาะแก่การทำความเพียร
3. ไม่โอ้อวด ไม่มีมายา เป็นคนเปิดเผยตนเองตามความจริง
4. ปรารภความเพียรเพื่อละอกุศลธรรมอย่างจริงจัง ไม่ทอดธุระ
5. มีปัญญาของพระอริยเจ้า เห็นความเกิดและดับ ที่จะกำจัดกิเลส ให้ถึงความสิ้นทุกข์
โดยชอบ
3.5) พระภิกษุปรารภความเพียรอย่างจริงจัง ซึ่งที่สุดของการทำความเพียร คือการเอาชีวิตเป็น
เดิมพัน ดังเช่นที่พระพุทธองค์ทรงตอบพระมหาโมคคัลลานะใน ฆฏสูตร ว่า
เรียบเรียงจาก สมยสูตร, อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต, มก. เล่ม 36 ข้อ 54 หน้า 129
เรียบเรียงจาก โพธิราชกุมารสูตร, มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์, มก. เล่ม 21 ข้อ 518 หน้า 130
เรียบเรียงจาก ฆฏสูตร, สังยุตตนิกาย นิทานวรรค, มก. เล่ม 26 ข้อ 692 หน้า 758
บทที่ 7 ขั้ น ต อ น ที่ 5 กาลัญญ
DOU 159