ข้อความต้นฉบับในหน้า
1.2) อาศัยคำแนะนำของพระอานนท์ ผู้เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทางพหูสูต ที่กล่าวถึงวิธี
เรียนให้ได้ผลดีกับพระสารีบุตร ดังนี้
“ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเป็นผู้ฉลาดในอรรถ ฉลาดในธรรม ฉลาดใน
พยัญชนะ ฉลาดในนิรุตติ และฉลาดในเบื้องต้นและเบื้องปลาย ด้วยเหตุเพียง
เท่านี้แล ภิกษุจึงจะเป็นผู้ใคร่ครวญได้เร็วในกุศลธรรมทั้งหลาย เรียนได้ดี
เรียนได้มาก และสิ่งที่เธอเรียนแล้วย่อมไม่เลือนไป”
ทั้งสองแนวทางที่กล่าวมานั้น ต้องอาศัยทั้ง
(1) ตัวพระภิกษุเอง ที่ต้องมีความอุตสาหะในการเข้าไปฟังธรรม และพิจารณาทำความเข้าใจ
ให้ลึกซึ้ง ก่อนที่จะได้นำไปฝึกหัดปฏิบัติจนกว่าจะเกิดผล และ
(2) พระภิกษุนั้นต้องได้ครูบาอาจารย์ที่ดี สมบูรณ์ทั้งภูมิรู้ ภูมิธรรม สามารถอธิบายขยายความ
ธรรมะให้เข้าใจได้โดยง่าย ทั้งยังเป็นต้นแบบในการปฏิบัติได้เป็นอย่างดี
2) การสอบถาม เป็นวิธีที่จะทำให้เข้าใจธรรมะได้ลึกซึ้งขึ้น และช่วยขจัดความสงสัยให้หมดสิ้นไป
เมื่อไม่สงสัย ก็ย่อมสามารถที่จะปฏิบัติได้ถูกต้อง แต่การถามเพื่อให้ได้รับคำตอบที่เป็นประโยชน์ พระภิกษุ
จะต้องฉลาดในการตั้งคำถามให้ดี ซึ่งคำถามที่ถามนี้ อย่างน้อยน่าจะมีอยู่ 3 ประเภท คือ
ถามนั้นได้ชัดเจน
1. คำถามว่า “อะไร” เพื่อให้ได้คำตอบที่อธิบาย หรือสามารถให้คำจำกัดความของธรรมะที่
2. คำถามว่า “ทำไม” เพื่อให้ได้คำตอบที่อธิบายถึงเหตุและผล รวมทั้งนัยของธรรมะนั้น
3. คำถามว่า “อย่างไร” เพื่อให้ได้คำตอบที่อธิบายถึงวิธีการปฏิบัติให้เกิดผล
การฉลาดถาม นอกจากจะทำให้พระภิกษุได้รับคำตอบที่เป็นประโยชน์อย่างมหาศาลต่อการ
ฝึกฝนอบรมตนเอง ยังทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ที่สามารถนำไปถ่ายทอดเพื่อเป็นประโยชน์กับผู้อื่นได้อีก
ทางหนึ่ง ตัวอย่างของพระอานนท์ ความที่ท่านเป็นผู้ได้รับพรสำคัญจากพระบรมศาสดา สามารถเข้าเฝ้าเพื่อ
ถามปัญหาที่สงสัยได้ เพราะพรข้อนี้ จึงทำให้ท่านเป็นผู้ที่มีความรู้แตกฉาน และมีคุณูปการกับพระพุทธศาสนา
นานัปการ นอกจากนั้นท่านยังเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุใดในทางพหูสูตด้วย ดังนั้นการสอบถามจากครูบาอาจารย์
หรือท่านผู้รู้ทั้งหลาย จึงมีความสำคัญต่อความก้าวหน้าในการพัฒนาคุณธรรมของพระภิกษุโดยตรง
นิสันติสูตร, อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต, มก. เล่ม 36 หน้า 361
158 DOU แม่บท การฝึกอบรมในพระพุทธศาสนา