ปฏิภาณ: ความสามารถในการโต้ตอบและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า SB 303 แม่บทการฝึกอบรมในพระพุทธศาสนา หน้า 114
หน้าที่ 114 / 252

สรุปเนื้อหา

ปฏิภาณหมายถึงความสามารถในการโต้ตอบและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ผู้ที่มีปฏิภาณสูงมักมีความเฉียบแหลมและการสั่งสมปัญญามามาก ทำให้สามารถตอบคำถามหรือปัญหาได้อย่างแม่นยำและเร็ว โดยในพระพุทธศาสนามีคำว่า 'ปฏิสัมภิทา' ซึ่งแบ่งได้เป็น 4 ประเภทคือ 1. อรรถปฏิสัมภิทา 2. ธรรมปฏิสัมภิทา 3. นิรุตติปฏิสัมภิทา และ 4. ปฏิภาณปฏิสัมภิทา โดยเฉพาะปฏิภาณปฏิสัมภิทาถือว่ามีคุณภาพที่เลิศที่สุด การแบ่งประเภทของผู้ที่สามารถโต้ตอบปัญหาออกเป็น 4 อย่าง ได้แก่ ตอบไม่แม่นยำและช้า, ตอบไม่แม่นยำแต่เร็ว, ตอบแม่นยำแต่ช้า, ตอบแม่นยำและเร็ว ผู้ที่ตอบได้แม่นยำและเร็วแสดงถึงปฏิภาณที่ดีที่สุด การมีปฏิภาณที่ดีต้องการการสั่งสมปัญญาและความสามารถในการจัดการการใช้ปัญญาอย่างเหมาะสม จึงสามารถนำความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที.

หัวข้อประเด็น

-ความหมายของปฏิภาณ
-ประเภทของปฏิภาณ
-การตอบสนองต่อปัญหา
-ความสำคัญของปัญญาและปฏิภาณ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

การณ์เฉพาะหน้า ความคิดทันการ ปฏิภาณ หมายถึง ความสามารถในการตีกลับ โต้กลับ คือเป็นการเอาปัญญามาใช้โต้ตอบได้อย่าง คล่องแคล่วว่องไว แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว เป็นคุณธรรมที่ประเสริฐอย่างหนึ่ง หากใครมี ปฏิภาณมาก มีความเฉียบแหลม เชาว์ไวไหวพริบในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็จะมีมากตามไปด้วย ผู้มีปฏิภาณ คือผู้ที่สั่งสมปัญญาไว้มาก ในทางพระพุทธศาสนามีคำที่ใช้เรียกผู้มีปัญญาแตกฉานว่า “ปฏิสัมภิทา” มีอยู่ 4 ประการ คือ 1. อรรถปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในอรรถ หรือความหมาย 2. ธรรมปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในธรรม 3. นิรุตติปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในนิรุตติ หรือภาษา 4. ปฏิภาณปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในปฏิภาณ ในบรรดาความแตกฉานเหล่านั้น ปฏิภาณปฏิสัมภิทา ถือว่าเลิศที่สุด เพราะผู้ที่แตกฉานในปฏิภาณนี้ ต้องเป็นทั้งผู้ที่แตกฉานในอรรถในธรรม และในนิรุตติไปพร้อมกัน จึงจะสามารถนำความรู้ที่ตนเองแตกฉานนั้น มาใช้โต้ตอบหรือแก้ไขปัญหาได้ทันการณ์ สำหรับบุคคลผู้สามารถโต้ตอบปัญหานี้ แบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท คือ 1. ตอบไม่แม่นยำ และช้า 2. ตอบไม่แม่นยำา แต่เร็ว 3. ตอบแม่นยำา แต่ช้า 4. ตอบแม่นยำา และเร็ว ในบรรดาบุคคลเหล่านี้ ผู้ที่ตอบปัญหาได้แม่นยำ และเร็ว คือผู้ที่มีปฏิภาณดีที่สุด ซึ่งการจะมีปฏิภาณ ดีอย่างนี้ ต้องเป็นผู้ที่มีการสั่งสมปัญญามามากและฉลาด หรือมีความคล่องแคล่วในการใช้ปัญญา ถ้า อุปมาปัญญาเหมือนข้าวของเครื่องใช้ที่แต่ละชิ้นก็มีประโยชน์แตกต่างกันไป ผู้มีปฏิภาณคงเปรียบได้กับ ผู้ที่ฉลาดในการนำข้าวของนั้นมาจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เมื่อถึงคราวต้องใช้ก็ทราบได้ทันทีว่าต้องใช้ของ ชิ้นใด อยู่ตรงไหน จึงสามารถหยิบมาใช้ได้ตามชอบใจ รวดเร็วและทันท่วงที ราชบัณฑิตยสถาน พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542, (กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์,2546), หน้า 647 และ พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พิมพ์ครั้งที่ 8, กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2538), หน้า 145 บทที่ 5 ขั้ น ต อ น ที่ 3 อัต ตั ญ ญ DOU 103
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More