ข้อความต้นฉบับในหน้า
การณ์เฉพาะหน้า ความคิดทันการ
ปฏิภาณ หมายถึง ความสามารถในการตีกลับ โต้กลับ คือเป็นการเอาปัญญามาใช้โต้ตอบได้อย่าง
คล่องแคล่วว่องไว แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว เป็นคุณธรรมที่ประเสริฐอย่างหนึ่ง หากใครมี
ปฏิภาณมาก มีความเฉียบแหลม เชาว์ไวไหวพริบในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็จะมีมากตามไปด้วย
ผู้มีปฏิภาณ คือผู้ที่สั่งสมปัญญาไว้มาก ในทางพระพุทธศาสนามีคำที่ใช้เรียกผู้มีปัญญาแตกฉานว่า
“ปฏิสัมภิทา” มีอยู่ 4 ประการ คือ
1. อรรถปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในอรรถ หรือความหมาย
2. ธรรมปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในธรรม
3. นิรุตติปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในนิรุตติ หรือภาษา
4. ปฏิภาณปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในปฏิภาณ
ในบรรดาความแตกฉานเหล่านั้น ปฏิภาณปฏิสัมภิทา ถือว่าเลิศที่สุด เพราะผู้ที่แตกฉานในปฏิภาณนี้
ต้องเป็นทั้งผู้ที่แตกฉานในอรรถในธรรม และในนิรุตติไปพร้อมกัน จึงจะสามารถนำความรู้ที่ตนเองแตกฉานนั้น
มาใช้โต้ตอบหรือแก้ไขปัญหาได้ทันการณ์
สำหรับบุคคลผู้สามารถโต้ตอบปัญหานี้ แบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท คือ
1. ตอบไม่แม่นยำ และช้า
2. ตอบไม่แม่นยำา แต่เร็ว
3. ตอบแม่นยำา แต่ช้า
4. ตอบแม่นยำา และเร็ว
ในบรรดาบุคคลเหล่านี้ ผู้ที่ตอบปัญหาได้แม่นยำ และเร็ว คือผู้ที่มีปฏิภาณดีที่สุด ซึ่งการจะมีปฏิภาณ
ดีอย่างนี้ ต้องเป็นผู้ที่มีการสั่งสมปัญญามามากและฉลาด หรือมีความคล่องแคล่วในการใช้ปัญญา ถ้า
อุปมาปัญญาเหมือนข้าวของเครื่องใช้ที่แต่ละชิ้นก็มีประโยชน์แตกต่างกันไป ผู้มีปฏิภาณคงเปรียบได้กับ
ผู้ที่ฉลาดในการนำข้าวของนั้นมาจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เมื่อถึงคราวต้องใช้ก็ทราบได้ทันทีว่าต้องใช้ของ
ชิ้นใด อยู่ตรงไหน จึงสามารถหยิบมาใช้ได้ตามชอบใจ รวดเร็วและทันท่วงที
ราชบัณฑิตยสถาน พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542, (กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์,2546),
หน้า 647 และ พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พิมพ์ครั้งที่ 8, กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2538),
หน้า 145
บทที่ 5 ขั้ น ต อ น ที่ 3 อัต ตั ญ ญ DOU 103