ข้อความต้นฉบับในหน้า
“ดูก่อนมาลุงกยบุตร เปรียบเหมือนบุรุษต้องศรอันอาบยาพิษที่ฉาบทาไว้
หนา มิตร อมาตย์ ญาติสายโลหิตของบุรุษนั้นจึงไปหานายแพทย์ผู้ชำนาญใน
การผ่าตัดมาผ่า
บุรุษผู้ต้องศรนั้นพึงกล่าวอย่างนี้ว่า เรายังไม่รู้จักบุรุษผู้ยิงเรานั้นว่า เป็น
กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ หรือศูทร...เพียงใด เราจักไม่นำลูกศรนี้ออกเพียงนั้น
บุรุษผู้ต้องศรนั้นพึงกล่าวอย่างนี้ว่าเรายังไม่รู้จักธนูที่ใช้ยิงเรานั้นว่าเป็นชนิด
มีแห่งหรือเกาทัณฑ์... สายที่ยิงเรานั้นเป็นสายทำด้วยปอผิว ไม้ไผ่ เอ็น
ป่านหรือเยื่อไม้ ลูกธนูที่ยิงเรานั้น ทำด้วยไม้ ที่เกิดเองหรือไม้ปลูก หาง
เกาทัณฑ์ที่ยิงเรานั้น เขาเสียบด้วยขนปีกนกแร้ง นกตะกรุม เหยี่ยว นกยูง...
เกาทัณฑ์นั้นเขาพันด้วยเอ็นวัว ควาย ค่างหรือลิง....ลูกธนูที่ยิงเรานั้น เป็น
ชนิดอะไรเพียงใด เราจักไม่นำลูกศรนี้ออกเพียงนั้น
ดูก่อนมาลุงกยบุตร บุรุษนั้นจึงรู้ข้อนั้นไม่ได้เลย โดยที่แท้บุรุษนั้นจึงทำ
กาละ (ตาย) ไป ฉันใด
ดูก่อนมาลุงกยบุตร บุคคลใดพึงกล่าวอย่างนี้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าจักไม่
ทรงพยากรณ์ทิฏฐิ 10 นั้น ฯลฯ แก่เราเพียงใด เราจักไม่ประพฤติพรหม
จรรย์ในพระผู้มีพระภาคเจ้าเพียงนั้น ข้อนั้นตถาคตไม่พยากรณ์เลย โดยที่
แท้บุคคลนั้นพึงทำกาละไปฉันนั้น”
9.5.3 รู้จักใช้อุปกรณ์ในการสอน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้อุปกรณ์เป็นสื่อในการสอนธรรมะโดยทรงอาศัยสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว หา
ได้ตามธรรมชาติมาใช้ ดังขณะที่พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นกองไฟกองใหญ่ จึงใช้กองไฟนั้นเป็น
อุปกรณ์สอนเหล่าพระภิกษุให้ระมัดระวังในศีล ตั้งมั่นในการบำเพ็ญสมณธรรมว่า
หมายถึง ความเห็น 10 ประการที่ไม่มีประโยชน์แก่การหลุดพ้นจากกองทุกข์ ทำอาสวกิเลสให้หมดไป ได้แก่
1.โลกเที่ยง 2.โลกไม่เที่ยง 3.โลกมีที่สุด 4.โลกไม่มีที่สุด 5.ชีพอันนั้น สรีระก็อันนั้น 6.ชีพก็อย่างหนึ่ง สรีระก็อย่างหนึ่ง 7.สัตว์เมื่อ
ตายไปแล้วมีอยู่ 8.สัตว์เมื่อตายไปแล้วไม่มีอยู่ 9.สัตว์เมื่อตายไปแล้วมีอยู่ก็มี ไม่มีอยู่ก็มี 10.สัตว์เมื่อตายไปแล้วมีอยู่ก็ไม่ใช่ ไม่มีอยู่
ก็ไม่ใช่
206 DOU แม่บทการฝึกอบรมในพระพุทธศาสนา