ข้อความต้นฉบับในหน้า
ดังนั้น จึงสรุปจุดมุ่งหมายของการรู้จักธรรมได้ว่า เพื่อให้พระภิกษุรู้ว่าพระพุทธองค์ทรงสอนอะไร
และเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ
3.4 วิธีการรู้จักธรรม
ที่พร้อมจะนำไปประพฤติปฏิบัติตามให้ได้อย่างสมบูรณ์
หากกล่าวถึงวิธีการรู้จักธรรม เราอาจแบ่งออกเป็น 2 วิธีการใหญ่ๆ คือ
1. สมัยพุทธกาล พระภิกษุเรียนรู้ธรรมด้วยการ “ฟัง” จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตรง เมื่อฟัง
แล้วก็ทรงจำไว้ และถ่ายทอดบอกต่อกันไปในหมู่พระภิกษุด้วยกัน ซึ่งการเรียนรู้ด้วยวิธีนี้ พระภิกษุจะต้อง
หมั่นเข้าไปเฝ้าพระพุทธองค์ หรือในกรณีไม่ได้อยู่ในที่ที่พระองค์ประทับ พระภิกษุก็ต้องหมั่นเข้าไปหาพระ
อุปัชฌาย์ อาจารย์ หรือเรียนรู้ผ่านเพื่อนสหธรรมิกผู้ทรงธรรม
ตรัสว่า
ด้วยวิธีเรียนรู้อย่างนี้ ก็อาศัยหลักการเดียวกันกับที่พระโพธิสัตว์สั่งสมปัญญาบารมีมา โดยพระองค์
“ท่านจงสมาทานปัญญาบารมี อันดับสี่นี้ไว้ให้มั่นก่อน จงบำเพ็ญปัญญา
บารมี ผิว่า ท่านต้องการบรรลุพระโพธิญาณ
เหมือนอย่างว่า ภิกษุเมื่อขอ ก็ขอทั้งตระกูลชั้นต่ำ ชั้นกลาง ชั้นสูง ไม่
เว้น ตระกูลทั้งหลายเลย ดังนั้น จึงได้อาหารพอยังอัตภาพให้เป็นไปได้ ฉันใด
ท่านสอบถามท่านผู้รู้ทุกเวลา ถึงฝั่งแห่งปัญญาบารมีแล้ว ก็จักบรรลุพระ
สัมโพธิญาณได้ ฉันนั้นเหมือนกัน”
วิธีการเรียนรู้ธรรมในยุคนั้น ดีที่สุดคือการหมั่นเข้าไปหาท่านผู้รู้แล้วเรียนเอา
2. สมัยปัจจุบัน ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ว่าการรู้จักธรรม ก็คือการศึกษาพระไตรปิฎก ซึ่งในกรณีนี้
พระภิกษุจะต้องเรียนรู้ด้วยวิธี “อ่าน” แต่เพียงอย่างเดียว เพราะพระไตรปิฎกปัจจุบันล้วนอยู่ในรูปของคัมภีร์
หรือหนังสือ หรือแม้แต่ที่จัดทำอยู่ในรูปของสื่อสมัยใหม่ เช่น ในแผ่น CD ที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็ล้วนแต่
ต้องใช้การอ่านเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ว่าพระภิกษุจะอ่านอย่างไรจึงจะเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
มีข้อแนะนำสำหรับการอ่านคัมภีร์พระไตรปิฎกในเบื้องต้นว่า
1. ต้องมีความเพียรพยายาม และต้องขยันอ่านให้ได้ต่อเนื่องเรื่อยไป คือ แม้บางครั้งจะอ่านได้น้อย
ก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้อ่านให้ได้สม่ำเสมอเป็นประจำ
บทที่ 3 ขั้ น ต อ น ที่ 1 ธั ม มั ญ ญ DOU 61