ข้อความต้นฉบับในหน้า
ของพระราชา มีการสะสมอาวุธไว้มาก ทั้งที่เป็นอาวุธแหลมยาวและอาวุธ
คม สำหรับคุ้มภัยภายในและป้องกันอันตรายภายนอก ฉะนั้น
ดูก่อนภิกษุทั้งหลายอริยสาวกผู้มีสุตะเปรียบเหมือนกับอาวุธ ย่อมละอกุศล เจริญกุศล ละกรรม
ที่มีโทษ เจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้บริสุทธิ์”
สละกิเลส
5.4.4 จาคะ
“จาคะ” แปลว่า การสละ การให้ปัน การเสียสละ การสละสิ่งที่เป็นข้าศึกแก่ความจริงใจ การ
จาคะกับทานใช้ในความหมายที่ใกล้กัน ทานมักจะหมายถึงการให้ทานเป็นสิ่งของ แต่จาคะจะรวม
การสละอารมณ์ที่เกิดจากการถูกกิเลสครอบงำ คือ ความโลภ โกรธ หลง เป็นต้น
จาคะ เป็นเรื่องของการเสียสละอย่างน้อย 3 ประการ คือ
1. สละทรัพย์สิน สิ่งของ ออกมาทำบุญทำทาน สร้างบุญ สร้างกุศล เพื่อเป็นเสบียงบุญไปในภพ
ชาติเบื้องหน้า การมีทรัพย์สมบัติมาก มักจะทำให้ใจเป็นห่วงกังวล เกิดความตระหนี่หวงแหนได้ง่าย จึง
ต้องแก้ไขด้วยการให้ทาน เมื่อให้แล้วก็ตัดใจ ไม่ให้มีความอาลัยหรือเสียดายทรัพย์ในภายหลัง
เมื่อตัดความตระหนี่ถี่เหนียว ความหวงแหนในทรัพย์สินสมบัติ ซึ่งเป็นกิเลสอย่างหยาบ คือความโลภ
ได้แล้วการสละกิเลสอย่างละเอียดที่นอนเนื่องอยู่ในใจจะสามารถสละได้ง่ายขึ้น และเมื่อหวนนึกถึงการทำทาน
อย่างต่อเนื่องในครั้งก่อนๆ ของตน ก็จะทำให้ใจรวมหยุดนิ่งได้ง่าย ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน
“มหานามสูตร” ว่า
“ดูก่อนมหานามะ สมัยใด อริยสาวกย่อมระลึกถึงการบริจาค
เนืองๆ สมัยนั้น จิตของอริยสาวกนั้นย่อมไม่ถูกราคะกลุ้มรุม ไม่ถูกโทสะ
กลุ้มรุม ไม่ถูกโมหะกลุ้มรุม ย่อมเป็นจิตดำเนินไปตรงทีเดียว”
2. สละความสะดวกสบายที่มากเกินจำเป็น ซึ่งเป็นเหตุให้เกียจคร้าน ความเพียรย่อหย่อน เช่น
แค่เดินไปใกล้ๆ ก็อยากให้มีรถไปส่ง ไม่อยากเดิน นั่งอยู่ในห้องธรรมดาได้ ก็อยากได้เครื่องปรับอากาศ
ขาดความอดทน จึงกลายเป็นคนประเภทหนักไม่เอาเบาไม่สู้ ติดความสบาย เมื่อรักสบาย เท่ากับตามใจกิเลส
กลายเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง และไม่รักที่จะฝึกฝนอบรมตน
หน้า 42
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พิมพ์ครั้งที่ 8, (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2538),
มหานามสูตร, อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต, มก. เล่ม 36 ข้อ 281 หน้า 531
100 DOU
แม่ บ ท ก า ร ฝึก อบรม ใน พระ พุ ท ธ ศ า ส น า