การแสดงธรรมและความบริสุทธิ์ SB 303 แม่บทการฝึกอบรมในพระพุทธศาสนา หน้า 220
หน้าที่ 220 / 252

สรุปเนื้อหา

การแสดงธรรมอันบริสุทธิ์นั้นต้องไม่ใช่เพื่อให้ผู้ฟังนับถือผู้แสดง แต่ควรเป็นเพื่อให้ผู้ฟังได้ปฏิบัติตามแนวทางของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การประเมินผลจากผู้ฟังสามารถทำได้ทั้งในรูปแบบลายลักษณ์อักษรและไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งการรับฟังความคิดเห็นมีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพการแสดงธรรมให้ดียิ่งขึ้น เอกสารการใช้แบบสอบถามหรือการรับฟังอย่างไม่เป็นทางการช่วยในการปรับปรุงตนเอง การแสดงที่จะถูกประเมินก็ต้องตรวจสอบทั้งเนื้อหาและวิธีการอย่างรอบคอบเพื่อความเข้าใจที่ดีที่สุดแก่ผู้ฟัง โดยเฉพาะเมื่อสิ่งนั้นมาจากพระพุทธเจ้าที่มีความเมตตาต่อทุกคน

หัวข้อประเด็น

-การแสดงธรรม
-ความบริสุทธิ์ในการแสดงธรรม
-การประเมินผลการแสดงธรรม
-วิธีการปรับปรุงการแสดงธรรม
-การรับฟังความคิดเห็นจากผู้ฟัง

ข้อความต้นฉบับในหน้า

โอหนอ ชนทั้งหลายพึงฟังธรรมของเรา ก็แลครั้นฟังแล้ว จะพึงรู้ทั่ว ถึงธรรมก็แลครั้นรู้ทั่วถึงธรรมแล้ว จะพึงปฏิบัติเพื่อความเป็นอย่างนั้น อาศัย ความที่แห่งพระธรรมเป็นธรรมอันดี จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น อาศัย ความกรุณา จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นอาศัยความเอ็นดู จึงแสดงธรรม แก่ชนเหล่าอื่น อาศัยความอนุเคราะห์จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น ด้วย ประการฉะนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมเทศนาของภิกษุเห็นปานนี้แล บริสุทธิ์” 1 หมายความว่า เมื่อแสดงธรรมแล้ว หากใจของพระภิกษุรูปนั้นคิดว่า ธรรมะที่ตนแสดงนั้นเป็น ธรรมะของตัวเอง เป็นคำพูดของตน อยากให้คนที่ได้ฟังธรรมมาเคารพเลื่อมใสตน ชื่อว่า การแสดงธรรม ไม่บริสุทธิ์ แต่หากคิดว่า ธรรมะนี้เป็นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อแสดงธรรมก็มีความปรารถนาในใจ อยากให้ผู้ฟังได้ปฏิบัติตามอย่างที่พระพุทธองค์ตรัสแนะนำ จนเกิดผลดีกับคนฟังเอง ชื่อว่า การแสดง ธรรมบริสุทธิ์ 9.6.2 อาศัยการประเมินผลจากผู้ฟัง มี 2 ลักษณะ คือ 1) เป็นลายลักษณ์อักษร ผ่านทางแบบสอบถามที่กล่าวถึงผู้แสดงธรรม เช่น ถามถึงท่าทาง การ วางตัวขณะแสดงธรรมว่าเป็นอย่างไร สาระหรือธรรมะที่นำมาแสดงนั้น สามารถอธิบายจนผู้ฟังเข้าใจได้ หรือไม่ ใช้เวลานานเกินไปหรือไม่ เป็นต้น ทำให้ได้รับข้อมูลที่ชัดเจน สามารถนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ต่อไป อีกได้ ทั้งเพื่อนำมาประเมิน ทั้งเพื่อนำมาปรับปรุงตัวให้การแสดงธรรมมีประสิทธิภาพดีขึ้น 2) ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ผ่านทางการได้ยิน ได้ฟัง ทั้งการติในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ทั้งการชมในสิ่ง ที่เหมาะสม แบบปากต่อปาก เช่น พระรูปนั้นเทศน์ดี ไม่เคยได้ฟังธรรมะแบบนี้มาก่อน หรือรูปโน้นกิริยาดู ไม่เรียบร้อยเลย นั่งสั่นขา เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้ สามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อปรับปรุงตัวเองได้เช่นกัน แต่หากไม่ได้จดจำ หรือไม่มีเวลาได้ทบทวน หรือประเมินตัวเองบ่อยนัก ก็อาจใช้ประโยชน์ได้น้อย เนื่องจาก ไม่ได้เก็บข้อมูลไว้เป็นเอกสาร อีกทั้งมีโอกาสที่ผลการประเมินนั้นอาจไม่ตรงกับสิ่งที่อยากทราบ เช่น คนฟังติ ชมแต่เรื่องวิธีการในการแสดงธรรม แต่ไม่ได้กล่าวถึงเนื้อหาสาระของธรรมะที่ได้แสดงฟังไป ผู้แสดงธรรมจึง อาจได้รับผลประเมินเพียงบางด้านเท่านั้น จันทูปมสูตร, สังยุตตนิกาย นิทานวรรค, มก. เล่ม 26 ข้อ 472 หน้า 550 บทที่ 9 ขั้ น ต อ น ที่ 7 บุคคล ปโร ปรัญญู DOU 209
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More