ข้อความต้นฉบับในหน้า
4. ชีวิตเหมือนแม่น้ำที่ไหลลงจากภูเขา เพราะไหลไปไม่มีหยุด
5. ชีวิตเหมือนก้อนน้ำลายที่ถ่มออกไป เพราะกำจัดทิ้งได้อย่างง่ายดาย
6. ชีวิตเหมือนก้อนเนื้อในกระทะเหล็กที่เผาไฟตลอดวัน ซึ่งเนื้อนั้นจะตั้งอยู่ไม่ได้นาน
7. ชีวิตเหมือนแม่โคที่เขาจูงไปเชือด มีแต่เดินหน้าไปหาความตาย
แม้ในยุคที่คนมีอายุยืนยาวกว่าสมัยของเราถึงขนาดนั้น ผู้มีปัญญาก็ยังเห็นว่าเวลาในชีวิตมีเพียง
น้อยนิดเดียวไม่นานก็ต้องแตกสลายทำลายลงผิดกับคนในยุคปัจจุบันที่แม้จะมีชีวิตอยู่กันเพียงแค่ไม่กี่สิบหรือ
ร้อยปี กลับรู้สึกว่าชีวิตของตนเองนี้ยืนนาน ทั้งๆ ที่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วช่างแตกต่างกันมากเหลือเกิน
เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเล่าให้พระภิกษุฟังจบแล้ว จึงทรงสรุปว่า
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในปัจจุบันนี้ เมื่อจะกล่าวโดยชอบก็พึงกล่าวว่า
ชีวิตของมนุษย์ทั้งหลายน้อย นิดหน่อย รวดเร็ว มีทุกข์มาก มีความคับแค้น
มาก จะพึงถูกต้องได้ด้วยปัญญา ควรกระทำกุศล ควรประพฤติพรหมจรรย์
เพราะสัตว์ที่เกิดมาแล้วจะไม่ตายไม่มี
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในปัจจุบันนี้ คนที่มีอายุอยู่ได้นาน ก็เพียงร้อยปีหรือ
น้อยกว่านั้นบ้าง เกินกว่าบ้าง”
7.4.2 ชีวิตมีความไม่แน่นอน
นอกจากเวลาในชีวิตจะมีอยู่น้อยมากดังที่กล่าวมาแล้วก็ยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าเราจะมีชีวิต
ยืนยาวไปได้นานเท่าไร ชีวิตจึงไม่มีความแน่นอน บางคนเกิดมาเสียชีวิตไปในเวลาอันไม่ควรก็มี แต่ในขณะ
ที่บางคนกลับมีอายุยืนยาว จนอาจกล่าวได้ว่าความตายไม่มีนิมิต คือไม่มีเครื่องหมายให้ทราบล่วงหน้าได้เลย
ซึ่งในเรื่องนี้มีปรากฏในอรรถกถา สมิทธิสูตร กล่าวไว้ว่า
1. ชีวิต ชื่อว่าไม่มีนิมิต เพราะกำหนดแน่ไม่ได้ ว่าจะตายในวัยไหน หรืออายุเท่าไร
2. พยาธิ ชื่อว่าไม่มีนิมิต เพราะกำหนดแน่ไม่ได้ ว่าจะตายด้วยโรคใด
3. กาล ชื่อว่าไม่มีนิมิต เพราะกำหนดแน่ไม่ได้ ว่าจะตายเวลาใด เช้าหรือค่ำ
4. สถานที่ทอดทิ้งร่างกาย ชื่อว่าไม่มีนิมิต เพราะกำหนดแน่ไม่ได้ ว่าจะตายที่ใด
สมิทธิสูตร, อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค, มก. เล่ม 24 หน้า 109
150 DOU แม่บท การฝึกอบรมในพระพุทธศาสนา